Pillow Talk - 4 [END]

SF BAP By M. Butterfly [BangLo/HimUp/DaeJae]

 

 

 

 

 

 

 

 

Pillow Talk = Intimate Conversation in Bed

 

 

Intimate Conversation in Bed

การพูดคุยอย่างใกล้ชิด ลึกซึ้งบนเตียง

 

 

 

 

 

 

 

...Pillow Talk..

 

 

 

 

 

ยงกุกปลดปล่อยอารมณ์ทุกหยาดหยดเข้าไปในตัวของเด็กน้อยในโอวาทที่กำลังนอนสิ้นฤทธิ์อยู่บนตัวเขา อัดฉีดความวาบหวามเข้าหากลีบเกสรฉ่ำอย่างไร้ความปราณีทว่าอบอุ่นในคราเดียว

 

ส่วนตัวเด็กดื้อเองก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะไปทั่วหน้าท้องแกร่ง เม็ดเหงื่อที่ผุดพรายเต็มหน้าผากสวยเป็นตัวบ่งชี้ได้เป็นอย่างดี ว่าบทรักที่เพิ่งจบลงไปนั้นร้อนแรงขนาดไหน

 

"อือ... แฮก..."

 

"แฮก.."

 

"ระ รังแกหนู"

 

"หืมม..?"

 

เสียงตัดพ้อเล็กๆ ดังขึ้นข้างหูของยงกุก

 

ก็แหงละ ยงกุกไม่เคยแกล้งทรมาณจุนฮงขนาดนี้มาก่อน แม้จะนอนด้วยกันมาหลายครั้ง รวมเตียงเคียงหมอนกันหลายหน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะโดนคนรักแกล้งให้อายขนาดนี้

 

แก้มเนี่ยนที่เปื้อนด้วยคราบน้ำตาจากแรงอารมณ์วาบหวามเงยขึ้นหาคนรักอย่างช้าๆ เนื้อตัวที่ยังคงแดงก่ำ ดวงตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความเย้ายวน ช่างยั่วอารมณ์คนมองฉุดให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

 

"มีแรงเถียงพี่แล้ว? แปลว่าพร้อมสำหรับยกต่อไปแล้วสิ หืมม?"

 

ลมหายใจที่เพิ่งจะกลับมาเป็นปกติ กลับต้องสะดุดเมื่อได้ยินเสียงกระเซ้าแย่จากคนรักเสียงทุ้ม

 

"มะ.. ไม่เอานะ...หะ ให้หนูพักก่อนนะ.. อ๊ะ!"

 

การขยับตัวขัดขืนเบาๆ เมื่อครู่ ทำให้ร่างกายท่อนล่างเผลอขยับตาม และความเป็นชายของยงกุกที่ยังคงอยู่ในตัวของจุนฮงจึงถูกบีบรัดตามไปด้วย

 

"พี่จะให้รางวัลเด็กดีไง ไม่อยากได้รางวัลจากพี่หรือ? หืม?"

 

ร่างกายของเด็กดีจึงถูกกดลงบนหมอนใบเดิมเพื่อรับรางวัลจากยงกุก อารมณ์รักที่ถูกจุดขึ้นอีกครั้งทำให้จุนฮงได้แต่ครางอยู่บนหมอน และจึกทึ้งหมอนไปตลอดทั้งคืนยามที่ถูกเติมเต็มอย่างเสียวซ่าน

 

"งื้อ..."

 

เมื่อจุนฮงทำตัวน่ารัก มีหรือที่ยงกุกจะไม่ 'รัก' คนเสียงทุ้มวางแผนที่จะให้รางวัลคนรักทั้งคืน

 

"รางวัลของพี่ที่จะให้เด็กดีนะ มีเยอะเลย พี่เตรียมไว้ให้หนูทั้งคืน"

 

"อ๊าง.....! อ๊า... พี่จ๋า...อือ"

 

"เด็กดีของพี่"

 

ลมหายใจของจุนฮงขาดห้วง ขนลุกและสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เสียงร้องของเจ้าตัวก็ก้องไปทั่วห้อง แข่งกับเพลง Pillow Talk ความร้อนแรงของบทรักทำให้ร่างกายของคนทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ รางวัลรักที่ยงกุกมอบให้เกือบทั้งคืน ทำให้ร่างกายของจุนฮงเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำอารมณ์ มอมแมมไปทั่วโดยเฉพาะเรียวขาขาว

 

และร่างกายกายของจุนฮงก็บิดเร้ารับแรงอารมณ์จากคนรักในรอบสุดท้าย ก่อนเข้าสู่นิทรารมณ์ไปในทันที

 

ยงกุกดึงรั้งร่างของเด็กในโอวาทให้อยู่ในท่าที่สบาย ก่อนที่จะทิ้งตัวโอบกอดจุนฮงไว้ในอ้อมแขนอย่างห่วงแหน และหลับตาลงเพื่อเข้าสู้นิทรารมณ์บนหมอนใบเดียวกัน

 

"ฝันดีที่รัก"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

26.06.2016

11 : XX A.M.

 

 

เปลือกตาสีมุกกระตุกแผ่วเบา ก่อนที่จะขยับลืมขึ้น

 

"ตื่นแล้วหรือคนดี?"

 

ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้น ชเวจุนฮงก็ถูกจุมพิตเบาๆ ที่หลังหู และตามมาด้วยเสียงทุ้มของคนรักที่นอนอยู่บนหมอนใบเดียวกัน ตอนนี้เด็กตัวขาวกำลังอยู่ในอ้อมกอดของคนรัก โดนที่แผ่นหลังบางกำลังอิงแอบอยู่กับแผ่นอกแกร่ง ร่างกายทุกส่วนแนบชิดถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่กัน

 

แขนแกร่งของยงกุกกำลังเท้าขึ้นเพื่อมองคนในอ้อมกอด ส่วนอีกข้างก็มุดลงใต้ผ้าห่มผืนบาง นวดคลึงสะโพกอิ่ม สภาพหัวยุ่งเพิ่งตื่นของคนรักที่เป็นผู้ใหญ่กำลังทำให้จุนฮงหน้าแดง ช่างมีความเซ็กซี่มากล้นอะไรขนาดนี้ ไหนจะรอยสักบนอกนั่นอีก

 

"หนูมีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหม?"

 

"เอ๋...!?"

 

เสียงทุ้มต่ำที่แหบลงอีกเล็กน้อยในยามหลังตื่นนอนดังขึ้น มันไม่ได้กดดันหรือคาดคั้น แต่กลับอบอุ่นอ่อนโยนคล้ายว่ากำลังปลอบประโลมอยู่

 

แต่ในยามตื่นนอนเช่นนี้ ด้วยความที่ยังคงมึนงงและเหนื่อยอ่อนจากความร้อนแรงในคืนที่ผ่านมา ทำให้เด็กดื้อที่กลายมาเป็นเด็กดีกำลังงง จุนฮงค่อยๆ พลิกตัวเข้าหาเพื่อมองหน้าของยงกุก

 

ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ค่อยเข้าใจในคำถามของยงกุกมากนัก แต่การได้ลืมตาตื่นขึ้นมาบนหมอนใบเดียวกันในอ้อมกอดของคนรัก มันช่างสุขล้นใจ จนใบหน้าขาวใสนั้นถูกแต้มด้วยรอยยิ้มกว้าง

 

"ว่าไงครับ? หืม"

 

"หนูไม่เข้าใจ"

 

"พี่รู้ว่าพักนี้พี่ค่อนข้างห่างกับหนูน ในช่างที่ผ่านมาอาจมีละเลยหนูไปบ้าง แต่พี่ก็รู้สึกได้ว่าหนูแปลกไปนะ กำลังกังวลใจอะไรอยู่ใช่ไหม?"

 

"เอ่อ.."

 

ท่าทางที่แสนลังเลใจว่าจะพูดออกมาดีหรือไม่ของจุนฮงยืนยันในสิ่งที่ยงกุกสงสัย เจ้าตัวเลื่อนมือที่กำลังลูบสะโพกของเด็กในโอวาทอย่างปลอบประโลมมากุมไว้ที่มือบาง ก่อนที่จะยกมือสวยขึ้นมาจุมพิตอย่างทะนุถนอม โดยที่ยังสบตากับคนในอ้อมแขนไปด้วย

 

"หนูรู้ใช่ไหมว่าหนูบอกพี่ได้ทุกอย่าง คุยกับพี่ได้ในทุกๆ เรื่อง"

 

ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนของคนรัก แม้จะทุ้มต่ำไปบ้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน จึงทำให้เล็กน้อยที่กำลังลังเลใจกล้าพูดออกมา

 

"สัญญามาก่อนนะฮะ"

 

"...?"

 

"ถ้าหนูเล่าให้ฟัง.. พี่หงุดหงิดหนูได้ โกรธหนูได้ ดุหนูได้ แต่ห้ามเลิกรักหนูนะ"

 

"จุนฮง..."

 

"สัญญาสิฮะ"

 

"สัญญาครับ"

 

"..."

 

"พี่ไม่มีวันเลิกรักหนูได้หรอกนะที่รัก"

 

ใบหน้าที่มีความกังวลฉายชัดของจุนฮง น้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยทำให้ยงกุกรู้ตัวว่าเรื่องที่เด็กดีของเขากำลังกังวล ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่ตัวเองคิดไว้แต่แรก และเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยยังคงลังเลที่จะพูด จึงได้เอ่ยย้ำคำรักพร้อมจุมพิตลงที่เปลือกตาสวยอย่างให้กำลังใจ

 

"เฮ้อ อย่างที่พี่พูดแหละฮะ พักนี้เราค่อนข้างห่างกัน หนูรู้นะว่าพี่ยุ่งและเครียดเรื่องงาน แต่หนูก็.. อยากอยู่กับพี่บ้าง"

 

"..."

 

"พี่ไม่ต้องสนใจหนูหรอก ไม่ต้องเอาใจด้วย แต่ขอให้หนูอยู่ใกล้ๆ พี่ได้ไหม ไม่ต้องคุยกับหนูก็ได้นะ อย่างน้อย.. ให้หนูนอนห้องเดียวพี่ก็ยังดี ไม่ต้องนอนเดียวกัน ไม่ต้องกอดหนู ไม่ต้องนอนหมอนเดียวกันเหมือนที่หนูชอบก็ได้ ฮึก.."

 

"จุนฮง..."

 

พูดไปได้ไม่เท่าไหร่ เด็กน้อยที่นอนในอ้อมแขนของยงกุกก็น้ำตาไหลออกมา ความอึดอัดทั้งหมดในใจที่เก็บเอาไว้มาพักใหญ่ก็ลูกระบายออกด้วยคำพูดและน้ำตา

 

"ชู่วว... เด็กดี.. ไม่เอาครับ"

 

"ละ...แล้ววันนั้น.. ฮึก"

 

"วันที่พี่เผลอตวาดหนูไปใช่ไหม? พี่ขอโทษนะคนดี"

 

อ้อมแขนอุ่นกระชับร่างบอบบางใน้ออมแขนเข้าหาตัว และยกฝ่ามือขึ้นมาลูบหัวขิงเด็กในโอวาทเบาๆ อย่างปลอบโยน ส่วนร่างนวลเนียนในอ้อมแขนเองก็พยายามกลั้นก้อนสะอื้นและเอ่ยต่อ

 

"อึก.. หนะ...หนูรู้นะว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ.. แล้วก็..อึก..กำลังหงุดหงิดเรื่องงาน แต่.. แต่ว่าก็อดเอากลับมาคิดไม่ได้ว่า...หนูเป็นเด็กน่ารำคาญ..ในสายตาพี่หรือเปล่า? ...อึก..เราห่างกันตั้ง 6 ปี.. หรือว่า..หนูจะเด็กเกินไปสำหรับพี่"

 

"..."

 

"ที่.. ทะที่หนูแยกตัวออกมา ไม่ใช่ว่าหนูประชดนะ ..แต่หนูกลัว.. กลัวว่าพี่จะรำคาญจนเลิกรักกัน...ฮึก... อย่าเลิกรักหนูนะ"

 

"ฮึ.. เด็กดี.. พี่จะเลิกรักหนูได้ยังไง หืม.."

 

เมื่อได้ฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่อึดอั้นตันใจจากเด็กน้อยที่แสนรัก ใจของยงกุกก็พองโตอย่างประหลาด เขารู้ว่าเด็กดีของเขารักเขามาก แต่เขาก็ไม่คิดว่าเด็กดีของเขาจะกลัวเขาหมดรักขนาดนี้

 

ต่อจากนี้ไปเขาจะทำให้เด็กดีของเขารู้เอง ว่าบังยงกุกนะรักชเวจุนฮงมากจนขาดไม่ได้ขนาดไหน แต่ก่อนอื่นเขาอยากรู้ว่าทำไมเด็กดีของเขาถึงได้ลุกขึ้นมาดื้อกับเขา

 

"แล้วเรื่องที่หนูแหกกฎละ? เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?"

 

"อ่า.. คือพี่ยงนัม..."

 

"ไอ้นัม...?"

 

"ก็ ก็.. ก็หนู.. หนูไม่รู้จะปรึกษาใครนี่นา!!"

 

"เล่ามาเลยนะหนู ไปแอบคุยอะไรกับไอ้นัม หืม"

 

เสียงทุ้มต่ำอันทรงเสน่ห์เข้มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเจือความขบขันอยู่เบาๆ เอ่ยขึ้น ก่อนที่จะแกล้งรัดร่างบอบบางในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น และพลิกตัวให้เด็กที่ถูกจับได้ว่าไปซนลับหลังอีกคดีขึ้นมานอนอยู่บนตัว ส่วนมือหนาก็ไล้ลงไปแกล้งบีบเค้นก้นนุ่มๆ ที่เต็มไม้เต็มมือ

 

"อื้อ.. อย่าแกล้งหนูนะ!"

 

"คนดื้อไม่มีสิทธิ์ต่อรอง เล่ามาเลยนะหนูจุนฮง"

 

"งื้ออ! หนูไม่ได้ดื้อนะ ไม่ได้แหกกฎด้วย ไม่ได้ล้ำเส้นเลย แค่แตะเบาๆ เอง.. อื้อ!"

 

ริมฝีปากฉ่ำที่กำลังเจื้อยแจ้วช่างเย้ายวนคนมอง ทำให้ลงกุกอดใจไม่ไหว จนต้องรั้งศรีษะสวยให้ลงมากดจูบแรงๆ ไปหนึ่งที

 

"พี่ยงกุก!!"

 

"ผู้ต้องสงสัยไม่มีสิทธิ์ต่อต้านพี่ในทุกกรณี" ยงกุกเอ่ยพร้อมบีบปลายจมูกรั้นเบาๆ

 

"หงึ! ก็พี่ยงนัมบอกว่าให้แตะเบาๆ แล้วเดี๋ยวหนูจะรู้เองว่าพี่ยังรักหนูไหม หนูก็แตะเบาๆ ไง ไม่ได้ใส่สั้นสักหน่อย งื้อ"

 

"หยุดความคิดเรื่องใส่สั้นไปเลยนะ พี่ไม่มีทางยอมแน่!"

 

"หนูไม่ใส่หรอกน่า! แล้วก็ที่พี่ไปให้สัมภาษณ์ไว้ไง หนูนึกว่าพี่ชอบแบบเซ็กซี่แบบผู้ใหญ่นี่ หนูอายจะตาย งื้ออ"

 

"จริงๆ พี่ก็ชอบนะ เอาเป็นว่าพี่อนุญาติละกัน"

 

"เอ๋!?"

 

"หนูจะใส่สั้น หรือจะไม่ใส่อะไรเลยก็ได้ แล้วก็มาเต้นบนตัวพี่เหมือนเมื่อคืนไง พี่ฟินมาเลยหนู"

 

"พี่ยงกุก!!!!!"

 

งื้อ!! ฟินเฟินอะไรกันเล่า ตาแก่บ้ากามนี่!

 

"อ่า.. พี่มีเรื่องจะบอกหนูแหละ"

 

"หืออ?"

 

น้ำเสียงของคนรักที่มีความจริงจรังมากขึ้นกว่าเมื่อครูดังขึ้น ดึงความสนใจของจุนฮงกลับมาให้ตั้งใจฟัง คางเรียววางแนบลงบนรอยสักของอกแกร่ง สายตาแสนซนจับจ้องและให้ความสนใจ

 

"พี่ซื้อบ้านแล้วนะ พี่จะย้ายออกจากหอ"

 

คำพูดของยงกุกเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของจุนฮง เพิ่งจะกลับมาคุยกันแท้ๆ จะย้ายหนีกันไปแล้วหรือ? ความน้อยใจและสับสนค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เบ้าตาสวยเริ่มมีน้ำตาคลอ

 

ยงกุกที่สังเกตุได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของคนรัก และดูเหมือนจะเข้าใจผิด ก็รีบปลอบโยนและลนลานอธิบายต่อ

 

"ชู่วว.. หนูจูใจเย็นก่อน ฟังพี่ก่อนนะ"

 

"ฮึก.."

 

"อย่าพึ่งร้องสิ! โธ่! พี่ซื้อบ้านเอาไว้เพื่อจะให้เราย้ายไปอยู่ด้วยกันต่างหาก"

 

"ย้าย...ไปอยู่ด้วยกันเหรอ? อึก"

 

"พี่รู้ว่าหนูหงุดหงิดทุกครั้งที่โดยฮิมชานกับเจ้าแดฮยอนล้อ แล้วจะไปขลุกอยู่ในสตูตลอดมันก็ไม่ใช่"

 

"..."

 

"หนูอยากพาลูกมาอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ? หืมม เราจะได้พาโมจิกับทิกเกอร์มาอยู่กับเราไงครับคนดี"

 

"ลูกเรา.."

 

"ใช่ครับ ย้ายไปอยู่กับพี่นะคนดี"

 

ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก! แม้มันจะเป็นเพียงประโยคขอให้ย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่คำบอกรัก ไม่ใช่คำขอแต่งงาน แต่มันกลับทำให้ใจของเต้นดั่งคำขอแต่งงาน ใจขอชเวจุนฮงในตอนนี้กำลังอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ แล้วไหนจะสายตาเว้าวอนท่แสนจะออดอ้อนจากพี่ยงกุกอีก

 

"ไป! หนูจะไปอยู่กับพี่"

 

ใครปฏิเสธลงก็บ้าแล้ว!

 

เมื่อเมฆหมอกแห่งความกังวลที่อัดแน่นอยู่ในใจได้พัดหายไป ความทะเล้นแสนซนและแสนจะสดใสที่เป็นนิสัยเดิมของเจ้าตัวก็กลับมา น่ารักเสียจนยงกุกอดใจไม่ไหว หมั่นเขี้ยวจนต้องหอมแก้มไปแรงๆ

 

"งื้อออ"

 

"กลับไปเกาหลีแล้วย้ายของเข้าบ้านเรากันนะคนดี"

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

#ฟิคหมอนบังโล่

THE STORY NEVER END

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เชิงอรรถ

 

 

# รูปประกอบเป็นรูปที่เราถ่ายเองและ edit เองค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Like this story? Give it an Upvote!
Thank you!

Comments

You must be logged in to comment
No comments yet