Chapter 9

Bloody Romance

 

ควอนจียงกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆตามทางในคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ ..

ข้างผนังตามทางเดินที่มุ่งไปสู่ห้องนั่งเล่นส่วนตัวของไลเคนหนุ่มประดับไปด้วยศาสตราวุธ

และเหรียญตรามากมายอันเป็นเกียรติแก่ตระกูลไลเคนส่องแสงวิบวับแข่งกันยามต้องแสงแดดสีทอง

ที่ผ่านกระจกเข้ามาในยามโพล้เพล้ .. แต่ก่อนจะถึงที่หมาย เสียงที่ดังขึ้นกลับทำให้เค้าต้องชะงัก

 

“จียง”    ชายอาวุโสหัวหน้าตระกูลเรียกลูกชายด้วยเสียงเข้มจากด้านหลัง

ในขณะที่จียงพึ่งเดินผ่านห้องทำงานของผู้เป็นพ่อได้ไม่นาน ชายหนุ่มชะงักไป

รู้แน่ว่าคงจะโดนสวดอะไรซักเรื่อง สังเกตจากเสียงแบบนี้ก็บอกได้

ไม่นานนักเค้าจึงค่อยถอยหลัง 2-3 ก้าวก่อนหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับท่านพ่อของตน

“มีอะไรให้รับใช้ครับ ท่านควอน? หรือรองเท้ายังไม่เงาพอ ข้าขัดให้มั๊ย?”

จียงพูดจากวนใส่พ่ออย่างเคย งานยั่วโมโหท่านหัวหน้าครอบครัวเป็นสิงที่เค้าถนัด

พอๆกับที่ซึงรีถนัดในการยั่วโมโหเค้า ..

“เจ้าไม่ต้องทำเป็นปากดี ทำเรื่องอะไรไว้ยังไม่รู้ตัวอีกรึไง? ไอ้ตัวกวน”

ท่านควอนคิ้วขมวดหน้าตาไม่บ่งบอกอารมณ์ที่จะให้ลูกชายมาล้อเล่นด้วย พูดด้วยเสียงดังก้องทางเดิน

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายสลดได้แต่อย่างใด

“โอเคๆ ข้าไม่ปากดีแล้วก็ได้ ด่าเสร็จแล้วใช่มั๊ย? งั้นข้าไปนะ”

จียงยักคิ้วใส่ผู้เป็นพ่อที่ยืนทำท่าเอือมระอาอยู่ตรงนั้นแล้วหันหลังกลับทันที เดินตรงไปยังทางเดิม

“หยุดก่อน อย่าหันหลังให้พ่อ จียง!! ไปพาซานดาร่ามาพบพ่อเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพ่อไม่เตือน”

ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะสดใสนักหลังจากต้องเจอกับท่าทีกวนๆของลูกชาย ท่านควอนยื่นคำขาดทันที

ก่อนหันหลังกระแทกประตูปิดลงเสียงสนั่นโดยไม่รอคำตอบจากคนที่ชะงักนิ่งอยู่ที่เดิม

ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักภายในใจ

 

.

.

 

“มานี่ ลุกขึ้น!”  จียงแทบจะพังปะตูเข้ามา ตรงรี่ไปยังร่างบอบบางที่ยังคงนอนนิ่งบนเตียงด้วยความอ่อนล้า

ใบหน้าซีดเซียวแทบไม่มีสีเลือดบ่งบอกได้ว่าคนๆนี้กำลังต้องการพักผ่อนเป็นอย่างมาก            

เรื่องราวที่ผ่านมามันหนักหนาจนทำให้เธออ่อนเพลียเหลือเกิน

และอีกอย่างแวมไพร์คนนี้ก็ไม่ได้ดื่มเลือดมาพักใหญ่ๆแล้ว ..   

“อะไรอีกล่ะ จะเอาข้าไปทรมานที่ไหนอีกรึไง?”

คนตัวเล็กฝืนใจพูดอย่างยากลำบากทั้งๆที่ยังหลับตาสนิท ต่อสู้กับเรี่ยวแรงของตัวเองที่กำลังจะหมดไป

ในขณะที่จียงกำลังดึงแขนเธอให้ลุกขึ้นนั่ง  ..   “ลุกขึ้น แล้วไปกับข้าเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!!”   

จียงกระชากตัวดาร่าขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะอีกฝ่ายไม่สามารถจะพยุงตัวเองไว้ได้อีกแล้ว

ร่างกายอันอ่อนเปลี้ยล้มลงบนเตียงนุ่มอีกครั้ง ตัวของดาร่าเย็นเฉียบ

ริมฝีปากแห้งผากของแวมไพร์ที่ไม่ได้สัมผัสกับโลหิตเลิศรสมานานเผยอออกน้อยๆด้วยความหิวกระหาย

ภายใต้กลีบปากบางนั้น เขี้ยวคมเรียวกำลังค่อยๆงอกยาวออกมาตามสัญชาตญาณนักล่า

 

“ไม่ไหวแล้ว .. ขะ ข้า ไม่ไหวแล้ว ปล่อย .. ปล่อยให้ข้าได้นอนลง ขอร้อง”

ดาร่าที่เริ่มจะเคลิ้มหมดสติพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า น้ำตาหยดเล็กๆไหลออกจากหางตา

ลมหายใจค่อยๆแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผิดกับหัวใจที่เต้นช้าลงทุกที ..

ในตอนนี้จียงเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้แล้ว

ไลเคนหนุ่มเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายก็รู้ได้ว่าคนๆนี้กำลังไม่สบายอย่างหนัก

เรี่ยวแรงขัดขืนต่อต้านเค้าก็มลายหายไปสิ้น ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากน่าหลงใหลนั้น

กำลังเรียกร้องโหยหาอะไรซักอย่าง ซึ่งเค้าคงเดาไม่ผิดแน่ว่าคงจะเป็นเลือด

จียงขมวดคิ้วก้มลงมองดาร่าด้วยความกระวนกระวายและสงสารจับใจ เค้ากำลังสับสนทำอะไรไม่ถูก

ไม่รู้ว่าควรจะช่วยเหลือคนๆนี้ยังไงดี ภาพที่เห็นทำให้ใจเค้าหวิวอย่างห้ามไม่ได้

‘ เจ้าอย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะ ดาร่า ’

 

 

ในที่สุดเมื่อไม่มีหนทางอื่นที่ดีกว่านี้ ไม่รอช้า จียงตัดสินใจนั่งลงบนเตียงพยุงร่างอันบอบบางนั้นขึ้นอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้เป็นไปอย่างเบามือที่สุด แขนข้างหนึ่งโอบรัดพยุงร่างบอบบางไว้ไม่ให้ล้มตัวลงอีก

มืออีกข้างปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตสีขาวผ้านิ่มออกแล้วถอดมันลงครึ่งตัว

 

เผยให้เห็นแผ่นอกกว้างแข็งแรงและลำคอขาวระหง ที่ๆเค้าค่อยๆประคองด้านหลังศีรษะ

ของคนในอ้อมแขนให้วางลงไปบนนั้นอย่างอ่อนโยน ..

และแล้วด้วยสัญชาตญาณแห่งนักล่ายามรัตติกาล ดาร่าเผยอริมฝีปากออกฝังคมเขี้ยวลงบนต้นคอ

ของคนที่กำลังกัดฟันแน่น หลับตาด้วยความเจ็บทันที พร้อมคมเขี้ยวที่ค่อยๆหยั่งลึกลงไปในร่าง

 

“อะ อ้า ..”   จียงเงยคอกัดริมฝีปากแน่นพยายามสกัดกั้นเสียงร้องจากความเจ็บปวดไม่ให้เล็ดลอดออกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ายอมให้แวมไพร์ฝังคมเขี้ยวลงบนร่างอันแข็งแกร่ง ร่างกายของมนุษย์หมาป่าผู้ทระนง

บัดนี้โลหิตของไลเคนกำลังถูกเสพเข้าไปไหลวนรวมกับแวมไพร์ที่ดูดดื่มมันอย่างหิวกระหาย

ริมฝีปากที่กลับมาเป็นสีแดงอีกครั้ง กดทับบดเบียดอยู่บนซอกคอนั้นเนิ่นนาน

ดาร่าหลับตาพริ้มด้วยความรู้สึกซาบซ่านของพลังที่กลับคืนสู่เธออีกครั้ง

มือเรียวทั้ง 2 ข้างที่เคยไร้เรี่ยวแรงไล้ขึ้นมาจากปลายแขนของจียงแล้วสิ้นสุดอยู่บนไหลแข็งแรงทั้งสอง

กรงเล็บยาวของดาร่าเกาะจิกกับเนื้อของจียงแน่นราวกับไม่ยอมปล่อยอาหารอันโอชะตรงหน้าให้หนีไปได้

จียงตอนนี้ที่เริ่มชินกับความเจ็บปวดเมื่อครู่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเพื่อลูบปอยผม

ของคนที่กำลังดูดเลือดจากตัวเค้าจนพอใจ ..

 

ในที่สุดเมื่อสติกลับคืนมา ดาร่ารีบถอนเขี้ยวออกจากเนื้อหนังนั้นแล้วผละหนีทันที

โลหิตแดงยังคงไหลต่อเนื่องจากแผลลึกที่คอจียงซักพักก่อนจะหยุดไป

ทั้ง 2 นั่งหอบเหนื่อยกันอยู่ตรงนั้น เหงื่อกาฬปรากฏเป็นเม็ดเต็มหน้าผากของคนทั้งคู่

รอยเลือดซิบๆที่ริมฝีปากอวบอิ่มที่ถูกกัดเพื่อข่มความเจ็บยังคงเหลือร่องรอยให้ได้เห็น

ดาร่าตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ตัวว่าเมื่อกี้ตัวเองได้ทำอะไรลงไป .. ‘ นี่ข้าดื่มเลือดจากตัวท่านงั้นหรอ?จียง’

 

 

“ขอโทษ ข้าขอโทษ เมื่อกี้ข้าทำอะไรลงไป ข้าทำร้ายเจ้าใช่มั๊ย?”

คนตัวเล็กหน้าเสียก้มงุดไม่กล้าสบตาอีกคนที่ตอนนี้มองจ้องมาด้วยสายาที่ไม่บ่งบอกใดๆทั้งสิ้น

เธอกำลังรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยมาก่อนที่จะดื่มเลือดจากคนรู้จัก

แล้วนี่ยิ่งเป็นคนๆนั้น .. ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้าจะไม่ทำมันเป็นครั้งที่สอง

ร่างสูงไม่ได้ตอบกลับ ได้แต่เอื้อมมือไล้ใบหน้าสวยอันน่าสงสารจับใจนั้นเป็นการปลอบขวัญว่าไม่เป็นไร

แล้วจ้องมองมันอย่างโหยหา เพราะบรรยากาศเมื่อกี้แท้ๆที่ทำให้ความรู้สึกของเค้ามันจะระเบิดออกมาอีก

 

ดาร่าก้มหน้าหลบสัมผัสนั้นก่อนที่จียงจะถอนมือออกไป คนตัวเล็กเงยหน้ามองจียงอีกครั้งอย่างเต็มตา

ซึ่งคราวนี้เธอสังเกตเห็นรอยแผลใหญ่จากคมเขี้ยวของเธอเองปรากฏอยู่บนลำคอของคนตรงหน้า

ไม่ทันคิดอะไรด้วยความตกใจดาร่าลืมตัวโน้มมาใกล้จียง เอื้อมมือทำท่าจะไปสัมผัสบริเวณนั้น

เหมือนอยากจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด แต่แล้วก็ต้องชักมือออก เพราะรู้ตัวดีว่าทำอะไรไม่ได้

แต่ก็โดนมือใหญ่ฉวยไว้ทัน มือใหญ่อันแข็งกระด้างของจียงกำลังกุมครอบครองมืออันอ่อนนุ่ม

ของแวมไพร์ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ..

 “อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่เป็นไรจริงๆ แผลแค่นี้ข้าทนได้ แล้วเลือดนั่นก็เป็นส่วนน้อยในตัวข้า ..

เลือดไลเคน เสียนิดเสียหน่อยไม่สะทกสะท้านหรอก เชื่อข้าเถอะ”

จียงพยายามปลอบใจให้ดาร่ารู้สึกดีขึ้นก่อนที่คนตัวเล็กจะพยักหน้ารับ

“งั้นถ้าไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าก็ปล่อยมือข้าซะสิ”

ดาร่าชักมือออกพร้อมๆกันกับจียงที่รู้สึกตัวได้ว่าเมื่อกี้เค้าเผลอทำตามใจตัวเอง เผลอใจดีกับดาร่าอีกแล้ว

ก่อนที่ร่างสูงจะฉุกคิดได้ว่าจุดประสงค์ที่เค้ามาที่นี่คืออะไร? ..

 

“เอาล่ะ หมดเวลาแห่งความประนีประนอมแล้ว เจ้าไม่เป็นไรแล้วใช่มั๊ย? งั้นลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

จียงลุกขึ้นจากเตียงทันทีคว้าต้นแขนดาร่าแล้วฉุดให้ลุกตาม ร่างบอบบางที่สู้แรงไม่ไหวจึงต้องยอมแต่โดยดี   “เดี๋ยว จะพาข้าไปไหนอีก? บอกมาก่อนสิ”   ดาร่าร้องโวยวาย

จู่ๆจะมาลากกันไปง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง แล้วนี่ก็คฤหาสน์ไลเคน เธอไม่อยากพบเจอใครเลยจริงๆ

“เอาเหอะน่า เดี๋ยวก็รู้เอง”    คนตัวใหญ่ฉุดกระชากคนที่พยายามขัดขืนไปตลอดทางเดิน

ทางที่จะนำดาร่าไปสู่การตัดสินชะตาชีวิตของเธออีกครั้ง ทางสู่ห้องทำงานท่านหัวหน้าตระกูลควอน

 

.

.

 

ภายในห้องทำงานผู้เป็นใหญ่ในคฤหาสน์ ทุกอย่างถูกตกแต่งไว้ในโทนสีน้ำเงินเข้มดูภูมิฐาน

โต๊ะทำงานไม้สีเข้มตัวใหญ่แกะสลักเป็นลายคล้ายกรงเล็บสัตว์ดุร้ายน่าเกรงขาม

ท่านควอนนั่งนิ่งเอนกายพิงเก้าอี้นวมบุกำมะหยี่ รับกับชุดโซฟารับแขกสไตล์หลุยส์ที่วางอยู่ใกล้ๆ

และท่านผู้หญิงควอน ผู้เป็นมารดาของจียงยืนอยู่เคียงข้างในชุดกระโปรงยาวลายลูกไม้สีม่วง

ในมือถือพัดเล็กๆเข้ากับชุด และมีเครื่องเพชรประจำตระกูลประดับแวววับอยู่กลางอก

ตอนนี้ไลเคนทั้ง 2 กำลังจดจ้องไปยังแวมไพร์สาวน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง

ที่กำลังยืนกัดริมฝีปาก กำมือแน่นด้วยท่าทางประหม่า ไม่กล้าสบตาทุกคนภายใต้บรรยากาศกดดันเช่นนี้

“เจ้าคือซานดาร่าปาร์คใช่มั๊ย?”

เสียงของหญิงอาวุโสที่ทำให้ดาร่าย้ำเตือนความจำถึงท่านแม่ดังขึ้นเป็นครั้งแรก

หลังจากความตึงเครียดเข้าครอบคลุมห้องนี้อยู่นานตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามา

ทั้งที่จริงมันเพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาที แต่ทำไมไม่รู้ ดาร่ารู้สึกได้ว่ามันนานเกือบชั่วโมง

“ข้า ซานดาร่าปาร์คค่ะ”

เสียงเล็กดังขึ้นภายในลำคอ แต่ก็เพียงพอจะทำให้ 2 คนที่อยู่ในห้องได้ยิน

“พวกข้ารับรู้เรื่องราวของครอบครัวเจ้าหมดแล้ว ข้าเสียใจด้วย”

เสียงทุ้มดังขึ้นเป็นครั้งแรกทำให้ดาร่ารู้สึกกดดันน้อยลงเข้าไปอีกอย่างประหลาด

คงเป็นเพราะคำพูดและน้ำเสียงที่ดูใจดีและจริงใจที่จะแสดงความเสียใจจริงๆกับเธอ อย่างน้อยก็ที่เธอรู้สึก

“ขอบคุณมากคะ”

คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างนอบน้อม ไม่เคยซักครั้งที่จะได้พบกับไลเคนที่น่าเกรงขามและน่าเคารพเช่นนี้

รู้สึกไปเองรึป่าวนะ? แต่ดูเหมือนเธอเริ่มจะชื่นชมเผ่าพันธุ์นี้เข้าซะแล้ว

แต่อันที่จริง คงเป็นเพราะตั้งแต่เกิดมา เธอไม่เคยได้รู้จักกับไลเคนจริงๆจังๆซักที

อย่างมากก็แค่เดินเฉียดกันในงานสังคม ซึ่งบางคนเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นไลเคน

 

 

“เจ้าไม่มีที่ไปเหรอ? ถึงได้มาอยู่ที่นี่”    เสียงของท่านผู้หญิงควอนดังขึ้น

พร้อมๆกับพัดที่ยังคงสะบัดเบาๆเป็นจังหวะ แต่ประโยคนี้ฟังดูแล้วช่างไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คือ .. คือ จียง ..”

ดาร่าอ้ำอึ้งพูดไม่ถูก ไม่รู้จะบอกยังไงดีว่าลูกชายของพวกท่านนั่นแหล่ะที่บังคับเธอมา

“เจ้ากำลังจะบอกหรอว่าจียงพาเจ้ามาโดยที่เจ้าไม่เต็มใจ?”

ท่านควอนพูดขึ้นเสียงทุ้มหนัก ชันตัวลุกขึ้นจากพนักพิง ทำให้ตอนนี้ดาร่ารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“ข้า .. ข้าไม่ได้จะพูดอย่างนั้น แต่ถึงตอนนี้แล้วข้าขอร้องอะไรพวกท่านซักอย่างได้มั๊ยคะ?”

ดาร่าสูดหายใจลึกก่อนพูดออกไปให้คนที่กำลังตั้งใจฟัง

“ข้าจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ขอพวกท่านโปรดอนุญาต ข้าไม่ต้องการเป็นภาระของใคร โดยเฉพาะ เอ่อ ..

ท่านก็เข้าใจดีว่าความสัมพันธ์ของพวกเราทั้ง 2 ฝ่ายเป็นยังไง อย่าว่าข้าเลย ถ้าข้าต้องพูดแบบนี้

ข้าให้ความนับถือพวกท่านไม่ได้คิดจะล่วงเกิน แต่ถ้าท่านผู้เป็นเจ้าของบ้านจะกรุณาอนุญาตให้ข้าไปจากที่นี่”    ดาร่าได้พูดทุกอย่างออกไปแล้ว ถ้าเป็นท่านพ่อท่านแม่จียงคงไม่กล้าขัด คงต้องยอมปล่อยเธอไป

 

 

“แล้วเจ้ามีที่ไปรึไง? ครอบครัวของเจ้า เอ่อ.. อย่าว่าข้าเลยนะ พวกเค้าไม่เหลือซักคน”

ชายสูงอายุพูดขึ้นด้วยท่าทางเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งภรรยาของเค้าเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

“มีสิคะ ข้ารู้แล้วว่าข้าจะทำยังไงต่อไป ข้าไม่อยากจะโทษบุตรชายของท่าน แต่ท่านช่วยบอกให้เค้าปล่อยข้าไปเถอะนะคะ ได้โปรด .. ข้ามีหนทางของข้าอยู่แล้ว ถ้าเค้าไม่มารั้งไว้ ป่านนี้ข้าคงไปถึงที่ของสหายข้าเรียบร้อยแล้ว”    ดาร่ากัดริมฝีปากแน่นร้องขออ้อนวอน ถึงต้องโกหกเธอก็จะทำ

เพราะจริงๆแล้วเธอยังไม่รู้เลยว่าออกไปจากที่นี่แล้วจะทำยังไงต่อไป ..

ได้ยินอย่างนั้นเล่นเอาผู้ใหญ่ทั้งคู่หันมามองหน้ากันแล้วถอนหายใจ

“เอาล่ะ ถ้าเจ้าปรารถนาอย่างนั้น ข้าก็จะทำตามที่เจ้าขอร้อง แต่อย่าลืมว่าถ้าเจ้าไม่มีที่ไป คฤหาสน์แห่งนี้

ยินดีต้อนรับเจ้าเสมอ .. จียง!!!! เข้ามา!!!!!”

ผู้เป็นพ่อร้องเรียกคนที่ยืนกระวนกระวายเฝ้าหน้าประตูนานแล้ว

ไม่รอช้าไลเคนหนุ่มรีบเปิดประตูเข้ามาอย่างรีบร้อนทันที ด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ท่านแม่ฮะ! ดาร่าเค้า..”    ไม่ทันจะพูดจบท่านผู้หญิงควอนก็แทรกขึ้น

“ดาร่าเค้ากำลังจะไปจากบ้านเรา ด้วยการตัดสินใจของเค้าเอง แล้วเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ห้าม”

จียงหันควับไปมองคนที่ก้มหน้างุดอยู่ เธอไม่กล้าเงยขึ้นมาสู้หน้าจียงจริงๆ ทำไมก็ไม่รู้ ..

แต่ดาร่ากำลังรู้สึกผิดต่อจียง ไม่สิ ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วย เราจะทนอยู่ให้เค้าทรมานทำไมล่ะดาร่า?

 

 

 

“ไม่!!! ดาร่าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เค้าไม่มีที่ไป!!” 

จียงเถียงคอเป็นเอ็น ยังไงซะเค้าก็ไม่ยอมปล่อยดาร่าไปง่ายๆอย่างแน่นอน

“เค้าบอกว่าเค้ามีที่ไปจียง เจ้าไม่ควรจะไปบังคับหรือกำหนดชะตาชีวิตใคร เจ้าต้องให้เค้าเลือกทางเดินของตัวเอง .. เค้าเป็นแค่เพื่อนเจ้านะจียง เจ้าไม่มีสิทธิ์ไปยุ่มย่ามในสิ่งที่เค้าตัดสินใจแล้ว ..

เอาล่ะ เจ้าไปได้ซานดาร่า”       ท่านควอนพูดเปิดทางให้แก่แวมไพร์สาว

ก่อนที่ร่างบางจะหันหลังเดินผ่านคนที่เป็นรักแรกอันแสนเจ็บปวดของเธอโดยไม่ได้หันมอง

ตรงไปยังประตูที่กำลังจะเปิดต้อนรับเพื่อคืนอิสรภาพให้แก่เธอ .. อิสรภาพที่ดาร่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธออยากได้มันมาจริงๆหรือไม่ เพราะนั่นมันหมายความว่าเธอจะไม่ได้เจอจียงอีก และอาจจะตลอดไปก็ได้

‘ ข้าจะต้องทำได้ จะต้องแก้แค้นด้วยตัวเอง ไม่เป็นภาระของใคร ’

  ข้าจะอยู่ได้ ไม่เห็นเป็นไร ก็เพียงไม่มีเจ้าเท่านั้นเอง ควอนจียง ..

 

“เดี๋ยว หยุดก่อน!!!” เสียงไลเคนหนุ่มดังขึ้นก่อนที่บานประตูจะปิดลง

ทำให้ทุกคนหยุดชะงักรวมไปถึงดาร่าด้วย

“ท่านพ่อท่านแม่ ดาร่าไม่ใช่เพื่อนของข้า เค้าเป็นคน .. เค้าเป็นคนที่ ..”

ร่างสูงขบฟันแน่น มือที่กำอยู่เกร็งแข็งจนเส้นเลือดปูดโปน เค้ากำลังตัดสินใจจะพูดอะไรบางอย่าง

บางอย่างที่ดาร่าไม่อยากได้ยิน บางอย่างที่ทำให้ดาร่าอยากหายไปจากโลกนี้ อยากจะหยุดหายใจไปดื้อๆ

‘ ท่านจะบอกพวกเค้าใช่มั๊ย? ว่าข้า .. ’

 

“ดาร่าเป็นคนรักของข้า เราทั้งสองแอบรักกันมานานแล้ว และที่เธอต้องการจะไปเพราะเรามีเรื่องผิดใจกัน

 ได้โปรดท่านพ่อท่านแม่ อย่ายอมปล่อยเธอไปเลย!”  ..

ทุกอย่างในห้องตกอยู่ท่ามกลางความตกตะลึง ทุกคนแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่จียงพูด

รวมไปถึงดาร่า คนตัวเล็กหน้าชา ใจเต้นแรง ในหูมันอื้ออึงไปหมด

รู้สึกว่าทุกอย่างในร่างกายมันปั่นป่วนจนควบคุมไม่ได้

‘ ท่านพูดอะไรออกไปจียง?? ที่ทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่?? ข้าไม่เข้าใจท่านเลยจริงๆ ’ 

“เป็นอย่างนั้นจริงๆหรือซานดาร่า??”    ท่านผู้หญิงควอนที่บัดนี้ชันตัวขึ้นนั่ง

รู้สึกตื่นเต้นแปลกใจกับสิ่งที่พึ่งได้ยินไม่น้อย เช่นเดียวกับผู้เป็นสามี

“ไม่ใช่นะคะ คือ .. ”      ก่อนที่ดาร่าจะทันแก้ตัว สายตาคมดุนั้นก็หันกลับมาปราม

พร้อมชายหนุ่มที่เดินเขามาโอบไหล่บอบบางนั้นเอาไว้ ดาร่าสะดุ้งตัวเล็กน้อย แหงนหน้ามองคนที่กำลัง

พาเธอเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของผู้เป็นบิดาด้วยความอึ้งในการกระทำของจียง

“เป็นเรื่องจริงครับท่านพ่อ ถ้าท่านยอมเชื่อ ข้าสัญญาว่าจะไม่กวนประสาทท่านอีก”

จียงพูดด้วยสีหน้าจริงจังมองตรงเข้าไปในตาของพ่อที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่

“เหอะ!! ไลเคนกับแวมไพร์ เจ้าไปรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมข้าไม่รู้!!?”

ท่านควอนพูดเสียงดังเพราะความงุนงงและเคืองนิดๆที่ลูกชายปิดบังเรื่องสำคัญอย่างนี้ไว้เป็นความลับ

เรื่องที่แวมไพร์รักกับไลเคนนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย ..

 

 

“คือ .. ไม่ใช่นะคะลูกชายของท่านกำลัง .. เอ่อ .. ”

ดาร่าพยามจะทักท้วง แต่สิ่งที่ตีกันยุ่งในหัวของเธอตอนนี้มันก็ยากเหลือเกินที่จะคิดคำแก้ตัวดีๆออกมาได้

“เรากำลังตกอยู่นะครับท่านพ่อท่านแม่ เพียงแต่การทะเลาะผิดใจกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ ..

ข้าเห็นท่านทั้งสองก็งอนกันอยู่บ่อยๆ .. เอาล่ะฮะ ในเมื่อหมดธุระแล้วข้าก็จะพาคนรักของข้าไปปรับ

ความเข้าใจกันก่อน ขอบคุณท่านพ่อท่านแม่ที่เมตตาเราทั้งคู่นะครับ”

พูดจบไลเคนหนุ่มก็เดินพาคนที่ตกตะลึงอยู่ในอ้อมแขนออกไปจากห้องทำงานแห่งนี้

ดาร่าพูดไม่ออกจริงๆไม่เข้าใจสิ่งที่จียงกำลังทำอยู่ แต่เธอไม่รู้ตัวหรอกว่า ..

ลึกๆแล้วที่ร่างกายของเธอมันยอมทำตามจียงแต่โดยดี เพราะเธอกำลังแอบดีใจแค่ไหนที่ดูเหมือนว่า

ตอนนี้เวลาที่เธอจะได้อยู่กับจียงถูกยืดออกไปอีกซักพักแล้ว ..ถึงมันจะเป็นเวลาเพียงน้อยนิดก็ยังดีใช่มั๊ย?

 

.

.

 

“ท่านรู้ใช่มั๊ยว่าลูกเราโกหก?”    

ท่านผู้หญิงควอนถามขึ้นหลังจากสองคนที่ทำให้ห้องทำงานตกอยู่ในความตกตะลึงเมื่อครู่ออกไปกันแล้ว

“อืม มม”     ผู้เป็นสามีตอบอย่างขรึมๆสายตาเหม่อลอยเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่กับตัวเอง

“เราจะปล่อยเค้าสองคนไปแบบนี้ดีแล้วหรือ? .. ท่านก็รู้ว่าลูกเราอาจจะต้องเสียใจ”

ท่านผู้หญิงควอนทำสีหน้ากังวลใจอย่างบอกไม่ถูก

“อย่าลืมสิว่าจียงมันโตแล้วนะ เจ้าก็เห็นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ..

สิ่งที่บ่งบอกได้ว่าลูกเรารู้สึกยังไงกับเด็กคนนั้น”     ท่านควอนตัดสินใจหันหน้ามาสบตากับภรรยาในที่สุด

“รอยที่คอนั่น ..”    ท่านผู้หญิงควอนพยักหน้าก่อนตอบออกไปเสียงเบา

‘เจ้าคงรักเค้ามากสินะ จียง’

 

.

.

 

“ปล่อยได้แล้ว!!!!”    ดาร่าสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของจียงที่โอบไหล่เธอไว้ทันที ..

หลังจากประตูห้องทำงานของท่านควอนปิดลง ซึ่งจียงเองก็ยอมปล่อยแต่โดยดี

และบัดนี้สีหน้าท่าทางของจียงที่ดูจะเคยรักและทะนุถนอมเธอเหลือเกินจากการแสดงภายในห้องเมื่อครู่

ก็เปลี่ยนไปทันที ..

“กลับไปอยู่ในห้องนอนซะ!!!”

ร่างสูงสั่งด้วยสียงเรียบเฉย หน้านิ่ง พร้อมเดินแยกไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางกลับห้องของดาร่า

หากแต่เป็นทางที่นำไปสู่ห้องนั่งเล่นของเค้า

คนตัวเล็กยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหน แล้วส่งเสียงไล่หลังจียงที่ค่อยๆเดินห่างออกไป

“เมื่อกี้เจ้าคิดจะทำอะไร? พูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง? ทั้งๆที่ข้าจะได้ไปจากที่นี่อยู่แล้ว!!”

ดาร่าโพล่งความคิดภายในใจออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย 

ก็เมื่อกี้เธอเกือบจะหลุดออกไปจากคฤหาสน์ไลเคนอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ต้องทนเจ็บช้ำน้ำใจจากคำพูด ..

สายตา และอารมณ์ขึ้นๆลงๆของจียง ที่มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บลึกๆอยู่เสมอ  .. เธอไม่เข้าใจคนๆนี้เลยจริงๆ

 

 

“คำก็จะไป สองคำก็จะไป .. ข้าอยากรู้นักว่าบ้านข้ามันน่ารังเกียจนักรึไง? เจ้าถึงจะทนซุกหัวนอนไม่ได้ ..

หรือคฤหาสน์แวมไพร์มันหรูกว่านี้สบายกว่านี้ เจ้าถึงไม่อยากลดตัวมานอนในรังแคบๆของข้า!!”

จียงที่ยังไม่หันกลับมาพูดแดกดันทำให้คนตัวเล็กต้องขมวดคิ้วมุ่น

“เจ้าคิดอะไรของเจ้า!!! จะบ้าไปแล้วหรอ ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นนะ เพราะข้ะ .. ”

ยังไม่ทันที่แวมไพร์สาวจะพูดจบ  .. จียงก็แทรกขึ้นทันที

“ถ้าไม่ได้คิดแบบนั้นก็เลิกพยายามไปจากที่นี่ได้แล้ว แล้วก็กลับห้องนอนไปซะ!!!!”

จบประโยคร่างสูงก็ก้าวเท้าต่อไปทันที แต่อีกคนยังคงนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ยอมขยับไปไหน

ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ..

           

“เดี๋ยว!! ควอนจียง นั่นเจ้าจะไปไหน!?”    คนตัวเล็กร้องถามด้วยเสียงที่อ่อนลงแต่ก็ดังพอที่จียงจะได้ยิน

ไลเคนหนุ่มหยุดนิ่งแล้วหันกลับมามองด้วยสายตาเย็นชา

“ไม่ใช่ธุระของเจ้า! .. อยากรู้ไปทำไม?”   จียงพูดด้วยท่าทางเหมือนจะไม่แยแสคนตรงหน้าแม้แต่น้อย

แต่จริงๆในใจกลับสับสนว่าดาร่าสนใจสิ่งที่เค้าจะทำด้วยหรอ? ..

“เปล่าหรอก แต่ว่า .. ”    ดาร่าก้มหน้านิ่ง ไม่รู้จะพูดออกไปดีรึเปล่า? ก็มันน่าอาย แต่ว่า ..

“ข้าจำทางกลับห้องไม่ได้”  คนตัวเล็กพูดเสียงอ่อย

‘ บ้ารึเปล่าซานดาร่า!! เค้าต้องหาว่าเรางี่เง่าแน่ๆ พูดแบบนี้ออกไปได้ยังไงกันนะ? ..

แต่คฤหาสน์ใหญ่แบบนี้ มาอยู่ได้ไม่กี่วันแถมยังขลุกอยู่แต่ในห้องนอน ใครจะไปจำทางได้ล่ะ!? ’

 

“งี่เง่า!! แค่นี้ก็จำไม่ได้”    ร่างสูงแกล้งว่า .. แต่กลับแอบหัวเราะเบาๆด้วยความขำ

ได้ยินแบบนั้นดาร่ากัดริมฝีปากด้วยความโมโหจ้องตาจียงเขม็ง ถึงตอนนี้เธอยิ่งโกรธตัวเองเข้าไปใหญ่

‘ แย่ที่สุด! ทำตัวให้เค้าว่าอีกจนได้ ’

“อย่ามาหัวเราะเยาะข้านะ! บ้าที่สุด!! ไม่มีมารยาท ข้าหาทางกลับเองก็ได้”

ร่างบางสะบัดหน้าหนี แล้วเดินตรงไปอีกทางทันที แต่ยังไม่ทันจะไปไหนร่างของจียงก็เคลื่อนไหวมา

อย่างรวดกระโดดม้วนตัวข้ามศีรษะของดาร่าแล้วหยุดลงสู่พื้นตรงหน้าร่างบางที่แทบชะงักหยุดไม่ทัน

“ทำบ้าอะไร ข้าตกใจหมด!”

ดาร่าตาโต โผลงออกไปทันที่ที่ตั้งสติได้ ร่างสูงที่ตอนนี้ยืนประชิดตัวอยู่ตรงหน้าเอาแต่เงียบนิ่ง

ไม่ตอบอะไร ก่อนคว้ามือเล็กนั้นมาจับไว้ แล้วจูงให้ดาร่าเดินตาม ..

 

 

“ควอนจียง .. ปล่อยมือข้าก็ได้ไม่เห็นต้องจูงแบบนี้เลย”  คนตัวเล็กที่เดินตามจียงมาได้พักนึงเอ่ยขึ้นเบาๆ

หลังจากเดินผ่านคนรับใช้ในคฤหาสน์ 2-3 คนที่มองตามเธออย่างสนใจแล้วหันไปซุบซิบกัน

จียงไม่สนใจสิ่งที่ดาร่าขอร้องแม้แต่น้อย แต่กลับกระชับมือแกร่งนั้นเข้าไปอีก

จนดาร่ารู้สึกได้ถึงแรงบีบที่แน่นขึ้น แล้วหันมายักคิ้วท้าทาย ..

“เจ้านี่เป็นอะไร!? ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ .. ข้าอุตส่าห์พูดดีๆด้วยแล้วนะ กวนประสาทที่สุด!”

คราวนี้ดาร่าสะบัดแขนแรงๆเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมจากมือใหญ่อันหยาบกร้านนั้น แต่ก็ไม่เป็นผล

“นี่!!! .. เมื่อไหร่จะหยุดทำเป็นรักนวลสงวนตัวซักที ข้าไม่หลงเจ้าขนาดนั้นหรอกนะ ..

มือนุ่มๆของเจ้าเนี่ย ข้าจับนิดจับหน่อยคงไม่เสียราคามากเท่าไห่หรอก”    จียงพูดออกมาหน้าตาเฉย

เดินมุ่งหน้าต่อไปไม่ได้หันมามองคนข้างหลังที่อ้าปากค้าง

“พูดบ้าอะไร หยาบคาย!!! .. ปล่อยนะ .. ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไอ้ไลเคนปากร้าย โอ๊ยยยเจ็บนะ!!!”

คนตัวเล็กไม่ทันจะได้ว่าจบก็ร้องออกมานิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด

เพราะแรงที่บีบแน่นอยู่บนมือเธอมันดูเหมือนจะหนักหน่วงขึ้นไปอีก ..

“หยุดโวยวายได้แล้ว ถึงแล้ว!!!”

จียงหันมาดุพลางหยุดยืนอยู่หน้าห้องๆหนึ่งที่ดาร่าจำได้ดีว่าไม่ใช่ห้องของเธอ

‘ จียงจะพาเธอมาที่ไหนอีกนะ?? ’

 

 

ไม่รอช้าร่างสูงผลักประตูเข้าไปภายในห้องที่ตกแต่งด้วยสีชมพูอ่อน ข้าวของที่วางอยู่อย่างเป็นระเบียบ

ล้วนดูงดงามน่ารัก ตัดกับเตียงกลมใหญ่กลางห้องปูด้วยผ้าสีขาว และเก้าอี้นั่งเล่นบุด้วยผ้าลูกไม้สีครีม

ที่มีคนๆนึงที่ดาร่าจำได้ว่าเคยพบกันแล้ว นั่งใจจดใจจ่ออยู่กับหนังสือเล่มบางๆ

ก่อนจะเงยหน้าหวานนั้นมองสองคนที่เพิ่งเข้ามา ..

 

“จียง? อ้าว! ซานดาร่า”     โบมียิ้มให้ทั้งคู่ก่อนลุกขึ้นยืนตรงมายังดาร่าและจียง

“บม .. เจ้าช่วยพายัยนี่ไปเดินแนะนำสถานที่ทั่วคฤหาสน์หน่อยได้มั๊ย? ก่อนที่จะเฟอะฟะหลงเข้าไปใน

ห้องขังหมู”      จียงพูดกับโบมีด้วยสีหน้าจริงจังแต่ก็ไม่วายหันหน้ามาตำหนิคนที่เค้าจูงมืออยู่

ด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้มากในสายตาดาร่า และเมื่อได้ยินจียงพูดอย่างนั้นแวมไพร์สาวก็แทบจะลมออกหู เงยหน้ามองอ้าปากจะหาเรื่องอีกคนทันที ..

“นี่เจ้ากล้าว่าข้าเฟอะฟะหรอ!!!? ถือดียังไงมาพูดแบบนั้น”
ดาร่าต่อว่าจียงจ้องตาเขม็ง หากแต่อีกคนกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านหรือแม้แต่จะหันมามอง

กลับกันเค้ายังคงพูดกับผู้เป็นน้องต่อไป ราวกับว่าไม่มีใครกำลังร้องว่าเค้าด้วยความโมโหอยู่ข้างๆ
”แล้วก็เรื่องอาหาร เราคงต้องเพิ่มเมนูพิเศษสำหรับค้างคาวตัวน้อยซะแล้ว ก่อนที่จะซีดตายไปอีกรอบ ..

ข้าฝากเจ้าดูแลด้วยนะบม”     จียงสั่งน้องสาวก่อนปล่อยมือคนตัวเล็ก

หันหลังเดินออกจากประตูห้องไปทันทีโดยไม่ได้หันมาสนใจซักนิด ราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่ในโลก

มันน่าเจ็บใจจริงๆ แล้วก็ยังสรรพนามที่เรียกเธออีก ..  ‘ ค้างคาวตัวน้อยงั้นหรอ? อีตาบ้า!!! ’

 

 

“ซานดาร่า .. ข้าเรียกเจ้าว่าดาร่าเหมือนที่จียงเรียกได้มั๊ย? จะได้สั้นๆหน่อย”  โบมีชวนคุยอย่างอารมณ์ดี

ทำให้ร่างบางที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่ประตูที่พึ่งปิดลงอย่างเคืองๆต้องหันกลับมามอง

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ .. แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าพี่เจ้าน่ะ เค้าถือวิสาสะเรียกข้าอย่างนั้นเอาเอง ..

ข้าไม่ได้อนุญาต!!”     ดาร่าพูดอย่างหัวเสียไม่เลิก คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่น

แต่แล้วเธอก็รู้สึกตัวว่ากำลังอารมณ์เสียใส่คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย  .. คนที่พยามจะเป็นมิตรกับเธอ

“เอ่อ .. ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะพูดกระแทกเสียงใส่เจ้า แต่เมื่อกี้มันน่าโมโหจริงๆนี่นา”

ดาร่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง มองฝ่ายตรงข้ามที่กำลังยิ้มตอบกลับมาอย่างจริงใจ

“ไม่เป็นไรหรอก ใครที่โดนจียงกวนใส่แล้วไม่อารมณ์เสียสิแปลก”

โบมีพูดเล่นอย่างอารมณ์ดี ก่อนแอบเห็นรอยยิ้มน้อยๆที่ปรากฏบนใบหน้าของดาร่า

ซึ่งแสดงว่าคนคนนี้เริ่มรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว ..

 

“เอาล่ะ! เราไปเดินเล่นกันเถอะดาร่า อ๊ะ ไม่สิ! ข้าตั้งชื่อเล่นให้เจ้าใหม่ดีกว่า .. ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า

ดาลองนะ แล้วเจ้าก็ต้องเรียกข้าว่าบม .. ข้าจะพาเจ้าไปห้องลับของข้า สนใจมั๊ย? ข้าไม่เคยบอกใครเลย

นะ .. เอ่อ ออ ยกเว้นแชริน ซึงรี แล้วก็ เอ่อ ออ .. คุณลุงฮยอนจา ยองเบ แล้วก็ อืมม .. จียง จียงไม่รู้

ใช่ๆ จียงไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ .. ว่าแต่ทำไมคนรู้เยอะจัง??”

ร่างบางยิ้มเก้อๆกับชื่อใหม่ ท่าทางน่ารักตลกๆของฝ่ายตรงข้ามทำให้ดาร่าอดที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาไม่ได้

อย่างน้อยตอนนี้เธอก็คงได้เพื่อนคนนึงในคฤหาสน์หลังนี้แล้ว .. คฤหาสน์ที่เปรียบเสมือนบ้านใหม่ของเธอ

แม้ยังไม่แน่ใจตนเองว่าการที่ตัดสินใจอยู่ที่นี่มันจะเป็นผลดีหรือไม่ก็ตาม

Like this story? Give it an Upvote!
Thank you!

Comments

You must be logged in to comment
ryouchi_chan
#1
WHAT???????
ryouchi_chan
#2
WHAT???????
JunielPanda
#3
plz engver T_T i can't understand
ammie16 #4
สนุกมากเลยค่ะ อย่าลืมมาอัพต่อนะคะ