ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ Special 2 : Till the End

EXO Secret Room
 
 






 
 
 

 

 

 

 

ตอนนี้..

 

ลู่หานมีความสุขที่สุดในโลก..

 

 

กลัวเหลือเกินว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะพบว่าฝันไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เคยมีคนบอกว่า..

 

 

"ก่อนจะพบกับความสุขที่แท้จริง ต้องข้ามผ่านความทุกข์แสนสาหัสมาก่อน.."

 

 

 

 

แล้วลู่หานได้ผ่านมันมาหรือยัง?

 

 

 







 

..ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ..

 

Special

 

 




 






 

TITLE : ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ (Special 2)

 

PARING : Kai x Luhan

 

RATE : NC-25

 

NOTE : เปิดตัวคิมจงอิน

 

WARNING : ตอนนี้ดาร์คมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แสงแดดยามเช้าส่องทะลุผ่านรอยแยกของม่านกำมะหยี่สีเลือดหมูเรียกให้คนที่หลับสบายอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ขยับตัวเล็กน้อย ดวงหน้าหวานหันหนีอย่างรำคาญเมื่อแสงนั้นกระทบโดนเปลือกตา พลิกตัวเข้าซุกอกกว้างหาไออุ่นจากร่างกายของคนที่นอนกอดกันมาทั้งคืน

 

ร่างสูงที่รับรู้ถึงการขยับตัวของอีกคนปรือตาขึ้น มือหนายกขึ้นไล้ข้อนิ้วไปตามโครงหน้าหวาน ปากหยักจุมพิตหน้าผากนวลแผ่วเบาก่อนจะย้ายไปยังริมฝีปากบางสีกุหลาบแตะสัมผัสแผ่วเบาเพียงแค่ภายนอก

 

ลู่หานที่รับรู้ถึงสัมผัสเหล่านั้นค่อยปรือตาขึ้น ดวงตาคู่โตช้อนมองดวงหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน ดวงตาสีนิลล้ำลึกดุจห้วงสมุทรที่สะท้อนภาพเขาทำเอาดวงหน้าหวานขึ้นสีเรื่อ ดวงตาคู่สวยหรุบลงไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย การแสดงออกที่น่ารักจนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนใสอย่างเอ็นดู

 

“ตื่นแล้วหรอครับ หลับสบายมั้ย” ร่างสูงว่า ปากหยักยกยิ้มอบอุ่น

 

“อือ ไม่ค่อยสบาย อึดอัด ปวดสะโพก” คำตอบที่ดูจะตรงเกินไปทำเอาร่างสูงยิ้มขำ ปากหยักกดจูบลงบนปากบางช่างพูดนั่นอีกครั้ง

 

“ให้ผมช่วยเอาออกมั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยกลั้วหัวเราะ พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มือหนาลูบไล้สะโพกมนอย่างยั่วเย้า

 

เพิ่งรู้ว่าได้แกล้งคนตรงหน้านี่มันช่างสนุกเสียจริง..

 

“อืออ ไม่ต้องเลยคนเจ้าเล่ห์ จะเอาออกหรือเอาเข้ากันแน่” ร่างบางร้องท้วง ดวงหน้าหวานงองุ้ม ตั้งใจจะพูดดักทางแต่เหมือนว่ามันจะเข้าทางร่างสูงซะมากกว่า

 

“ลู่หานคิดมากจังเลยครับ หื่นนะเนี่ย ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะ” นิ้วเรียวบีบจมูกโด่งรันส่ายไปมาเบาๆ ยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของอีกฝ่าย กระนั้นพวกแก้มทั้งสองข้างกลับขึ้นสีสดลามไปถึงใบหู

 

 

          คนบ้า..

 

มือบางทุบลงกับอกแกร่งอย่างหมั่นไส้ รางสูงรวบข้อมือบางทั้งสองข้างไว้ก่อนจะยกขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา ลู่หานหรุบตาอย่างเขินอาย

 

 

ตอนนี้..

 

ลู่หานมีความสุขที่สุดในโลก

 

 

กลัวเหลือเกินว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะพบว่าฝันไป

 

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาตอนนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเขาไม่ได้ฝัน

 

มันคือเรื่องจริง ผู้ชายตรงหน้ามีตัวตนจริงๆ

 

         

 

ปากสวยยกยิ้มหวาน มือบางลูบไล้ใบหน้าคมอย่างเผลอไผล ดวงตาคู่สวยไหวระริก เอ่อล้นไปด้วยความสุข

 

รอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนดวงหน้าคม จงอินงับนิ้วเรียวที่แสนซุกซนเล่น ดูดเบาๆ จนร่างบางขนลุกซู่

 

“อือ อ ไม่เอาแล้ว ไปอาบน้ำได้แล้ว สายแล้วนะครับ” ลู่หานพยายามดึงนิ้วออกจากปากหยัก มืออีกข้างดันอกแกร่งไว้ เอ่ยไล่อีกคนกลายๆ

 

“ไม่เอาอ่ะ อยากกอดลู่หาน” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน แขนแกร่งกอดกระชับร่างบางแน่นขึ้น ซุกใบหน้าคมลงกับซอกคอขาวขบเม้มดูดดึงแผ่วเบา จนเสียงหวานครางเครือในลำคอ

 

“อืออ มะ..ไม่เอาแล้ว ไปอาบน้ำเถอะนะฮะ ส..สายแล้ว ” มือบางพยายามดันอกแกร่งออก เสียงหวานสั่นน้อยๆเมื่อร่างสูงไม่ยอมหยุด

 

 

แล้วอย่างนี้จะรอดมั้ย..!?

 

 

 

 

ตะวันเคลื่อนคล้อยจนอยู่กลางหัว ลู่หานออกมายืนส่งร่างสูง ดวงหน้าหวานประดับรอยยิ้มงดงาม ก่อนจะยู่ลงอย่างงอนๆ เมื่อร่างสูงกระซิบอะไรบางอย่าง

 

“ขอบคุณนะครับที่อาบน้ำให้ผม.. ซะสะอาดเลย” เสียงทุ้มกระซิบพร่าชิดใบหูเล่นเอาร่างบางหน้าขึ้นสีไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวัน มือบางทุบลงบนไหล่กว้าง สมองไพล่นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาดวงหน้าหวานที่แดงอยู่แล้วก็แดงเข้าไปอีก

 

หื่นเกินไปแล้วนะ คุณคิมจงอิน

 

เมื่อเช้าหลังจากที่เถียงกันไปมาในที่สุดก็ได้ข้อยุติ ร่างสูงยอมไปอาบน้ำ แต่กลับลากร่างบางไปด้วย

 

น้ำหน่ะได้อาบจริง แต่อาบไปครางไปนี่สิ..!

 

 

“ลู่หานครับ รอผมนะ อีกสามวันผมจะมารับคุณ” เสียงทุ้มเอ่ยหนักแน่น ดวงตาคมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยอย่างมั่นคง ลู่หานพยักหน้ารับเบาๆ รอยยิ้มงดงามปรากฏบนดวงหน้าหวาน ปากหยักประทับจูบที่ริมฝีปากบางแผ่วเบา แทนคำสัญญา..

 

 

 

 

 

 

- - - - - ไ ม่ รู้ จั ก ฉั น   ไ ม่ รู้ จั ก เ ธ อ - - - - -

 

 

 

 

 

 

เวลาของคนรอ อาจเนิ่นนานในความรู้สึกของใครหลายๆคน แต่สำหรับลู่หานในตอนนี้ การรอคอยไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อเขาเลยเมื่อคนรอ รอด้วยจิตใจที่เปี่ยมสุข ในห้วงความคิดมีแต่เรื่องของใครคนนั้น ดวงหน้าหวานประดับไปด้วยรอยยิ้มงดงาม

 

 

นี่ก็ผ่านไปสองวันแล้ว อีกแค่วันเดียวเท่านั้น..

 

 

 

 

 

มีคนเคยบอกว่า..

 

 

“ก่อนจะพบกับความสุขที่แท้จริง ต้องผ่านความทุกข์แสนสาหัสมาก่อน..”

 

 

แล้วลู่หานได้ผ่านมันมาหรือยัง?

 

 

 

 

 

 

“เสี่ยวลู่ แม่ขอร้องหล่ะนะ รับแขกให้แม่อีกสักครั้งได้มั้ย แขกคนนี้สำคัญจริงๆ ถือว่าช่วยแม่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ลูกจะไป..” เสียงอ้อนวอนของผู้มีพระคุณ ทำเอาลู่หานใจอ่อนไม่กล้าจะปฏิเสธคำขอร้องนั้น ถึงแม้จะอยากปฏิเสธแค่ไหน.. ก็มิอาจทำได้ เมื่อบุญคุณของคนๆนี้ มากเกินกว่าจะทดแทน

 

ถือซะว่าทำเพื่อแม่ก่อนไปก็แล้วกัน..

 

“ครับ ผมจะทำ” ลู่หานตอบรับ ส่งยิ้มบางๆให้อย่างจริงใจ

 

 

ร่างบางจัดการหยิบเสื้อคลุมตัวเก่ง ที่คิดว่าจะไม่ต้องใช้มันอีกแล้วขึ้นมาพาดบ่า ขาเรียวพาร่างบอบบางหายลับเข้าไปหลังฉากเพื่อเปลี่ยนชุด

 

 

มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำแบบนี้.. ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ

 

 

ลู่หานเตรียมความพร้อมในห้องรับรองแขกระดับวีไอพีอย่างเช่นที่เคยทำเป็นประจำ การกระทำทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญ ทุกอย่างสิ้นสุดลง เมื่อแก้วคริสตัลทรงสวยที่บรรจุไวน์รสเลิศถูกวางลงบนโต๊ะ

 

ตอนนี้ก็แค่รอเท่านั้น

 

รอเหยื่อคนสุดท้ายของลู่หาน..

 

 

เสียงลั่นของประตูไม้บานโตบ่งบอกว่าแขกของเขามาถึงแล้ว ลู่หานจัดการทุกอย่างอย่างเคยชิน เสื้อคลุมตัวบางถูกคลายออกมือบางร่นเสื้อคลุมขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นต้นขาขาวเนียน

 

ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร ข้อมือบางก็ถูกฉุดลากด้วยแรงมหาศาล ก่อนจะถูกเหวี่ยงลงกับเตียง ร่างบางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แต่กระนั้นก็บอกให้ตัวเองมีสติและใจเย็น

 

ดวงตากลมจ้องมองคนตรงหน้า ชายร่างสูงที่ดูอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับจงอินแสยะยิ้มอย่างหื่นกระหาย สายตาจาบจวบกวาดมองไปทั่วร่างกายของเขา พร้อมกับโถมตัวลงมาทาบทับอย่างรวดเร็วจนลู่หานแทบไม่ทันได้ตั้งตัว มือบางยกขึ้นดันอกหนาไว้อย่างอัตโนมัติ เสียงหวานเอ่ยด้วยจริตน้อยๆ

 

“คุณครับ ผมว่าเรามาดื่มอะไรกันก่อนดีมั้ย ไม่ต้องรีบร้อนหรอกฮะ ยังไงคืนนี้ผมก็อยู่กับคุณทั้งคืน” เสียงหวานว่า มือบางลูบอกหนาภายนอกเสื้อเชิ้ตเบาๆอย่างยั่วเย้า ปากบางยกยิ้มหวาน

 

“หึ เธอคิดว่าฉันซื้อตัวเธอมาเพื่อมานั่งจิบไวน์ราคาถูกกับเธอหรือไง” มือสากบีบคางมนให้หันมามอง แรงบีบที่ไม่น้อยทำให้ร่างบางนิ่วหน้า สมองเริ่มคิดหาทางออกอย่างรวดเร็ว

 

“เอ่อ.. คือไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือ..ผมเห็นคุณมาเหนื่อยๆก็เลยอยากให้ดื่มอะไรสักหน่อยจะได้สดชื่น” ดวงหน้าหวานยิ้มอย่างใจเย็น พยายามขยับกายออกมาจากร่างตรงหน้า แต่ก็ไม่ไวเท่า เมื่อข้อมือบางถูกอีกคนตะครุบไว้ กดลงกับเตียง ก่อนจะซุกไซร้ซอกคออย่างหื่นกระหาย มือสากลูบไล้ไปทั่วกายบางอย่างจาบจ้วง ปากหนาดูดดุนยอดอก ลู่หานพยายามถดตัวหนี

 

“หึ จะหนีไปไหน อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย” ร่างหนากระชากกายบางให้กลับมาอยู่ใต้ร่างอีกครั้ง ริมฝีปากหนาบดขยี้ฝีปากบางอย่างรุนแรง ลิ้นสากพยายามแทรกเข้าไปในโพรงปาก แต่ร่างบางกัดฟันแน่น สร้างความไม่พอใจให้แก่ร่างหนาเป็นอย่างมาก

 

มือหนาบีบคอขาวแน่น ร่างบางดิ้นพลาด ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตา หน้าหวานส่ายไปมาอย่างทรมาน แต่กระนั้นก็ไม่ยอมเปิดปาก นิ้วยาวบีบแน่นเข้าไปอีกจนร่างบางทนไม่ไหว ปากบางอ้าออกเพื่อเรียกอากาศเข้าสู่ปอด ร่างหนาได้ทีแทรกลิ้นเข้าไป ลู่หานพยายามต่อต้าน ฟันคมกัดลงบนลิ้นของอีกฝ่ายจนได้กลิ่นคาวเลือด ผลักคนที่คร่อมกายของจนออก ก่อนจะวิ่งหนีไปยังประตู

 

“แกกล้าลองดีกับฉันหรอ!” ร่างหนาลุกขึ้น ดวงตาคมเกรียวกราด เสียงทุ้มตวาดลั่น ตามไปกระชากข้อมือบางที่กำลังจะเปิดประตูหนีออกไปข้างนอก

 

“ชอบความรุนแรงใช่ไหม ได้..” เหวี่ยงร่างบางลงไปปะทะกับเตียงจนลู่หานนิ่วหน้าด้วยความจุก

 

เพี๊ยะ!!!!

 

ฝ่ามือหนาฟาดลงไปบนใบหน้าหวานจนหันไปตามแรง แก้มเนียนขึ้นรอยแดงเป็นริ้ว เลือดสีเข้มซึมออกมาตามมุมปาก ลู่หานเบ้หน้าอย่างเจ็บปวด ตัวบางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

 

ร่างหนาเข้ามาทาบทับอีกครั้ง กระชากเสื้อคลุมตัวบางออก ก้มหน้าลงซุกไซร้ไปตามผิวกายขาวเนียนอย่างหิวกระหาย ลู่หานพยายามดิ้นหนีจากสัมผัสเหล่านั้น มือบางผลักไสอย่างรังเกียจ

 

ริมฝีปากหนาไล้ไปทั่วร่างกายไม่หยุด ฟังคมกัดลงบนยอดสีทับทิมอย่างรุนแรง จนร่างบางน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด

 

กระทั่งรู้สึกว่าคนด้านบนผ่อนแรงลง ลู่หานจึงกัดฟันรวบรวมแรงผลักร่างหนาออกจากตัว มือบางรวบเสื้อคลุมอย่างลวกๆ ขาเรียววิ่งตรงไปยังประตูไม้บานโตอีกครั้ง

 

 

“ฤทธิ์มากนักใช่มั้ย” ร่างหนาตามไปกระชากร่างบาง เหวี่ยงลงกับพื้น ก่อนจะตามมาคร่อมทับ ปล่อยหมัดลงกับหน้าท้องแบนราบอย่างแรง ร่างบางตัวงอด้วยความจุก ฟันขาวขบริมฝีปากบางแน่นจนห้อเลือด

 

มือสากฉุดลากลู่หานขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง ร่างบางที่จุกจนไม่มีแรงจะขยับได้แต่ร้องไห้ ทั้งเจ็บ ทั้งหวาดกลัว

 

ใบหน้ากร้านฝังลงกับซอกคอขาว ดูดดึงขมเม้มอย่างแรง มือไม้ปัดป่ายบีบเค้นไปทั่วกายบางอย่างจาบจ้วง น้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่ได้ทำให้อีกคนสนใจแต่อย่างใด

 

เสื้อคลุมถูกกระชากออก เผยให้เห็นผิวกายขาวเนียน ร่างบางพยายามดิ้นหนี ขบริมฝีปากกลั้นความเจ็บปวด เมื่ออีกฝ่ายนิ้วแทรกเข้าไปในกายทีเดียวสามนิ้วกระตุกเข้าออกอย่างแรงจนช่องทาง รักฉีกขาด เลือดสีเข้มไหลออกมาเปรอะเปื้อนผ้าปูที่นอนสีขาว

 

ลู่หานที่ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนได้แต่นอนนิ่ง หยาดน้ำตาค่อยไหลลงอาบแก้มเนียน ในใจคิดถึงแต่ผู้ชายที่แสนอบอุ่นคนนั้น

 

คิมจงอิน..

 

จากนี้ไป ผมคงไม่มีหน้าไปพบคุณอีกแล้ว..

 

ดวงตาคู่สวยปิดลงช้าๆ กัดฟันรับชาตะกรรมที่เกิดขึ้น บทรักที่รุนแรงและป่าเถื่อนดั่งการกระทำของสัตว์นรก ร่างสวยนอนนิ่งเป็นเครื่องระบายอารมณ์ให้คนด้านบนอย่างทุกข์ทรมาน..





 

35%










 

 

 

 

 

ยังไม่ทันที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลง เสียงโครมครามจากด้านนอกก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

“เข้าไปไม่ได้นะคะคุณ..”

 

 

โครมมมม

 

ประตูบานโตถูกถีบอย่างแรงจนเปิดออก

 

“ปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้” คิมจงอินวิ่งเข้าไปกระชากร่างหนาออก เหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น

 

ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาร่างสูงแทบหยุดหายใจ ร่างสวยนอนนิ่ง ดวงตาคู่กลมปิดสนิทไม่รับรู้สิ่งใด น้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงหน้าหวานบวมแดง เลือดสีสดไหลซึมออกมาจากมุมปาก ร่างกายที่เคยสวยงามเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้ายจนช้ำ รอยเลือดที่ไหลออกมาเปรอะเปื้อนซอกขาเรียวและผ้าปูที่นอนสีขาวทำเอาร่างสูงต้องหรุบตาลงอย่างข่มอารมณ์ จงอินหยิบผ้าขึ้นมาคลุมกายบางไว้

 

 

“มึง เป็นใคร กล้าดียังไงมายุ่งกับกู” ร่างหนาไม่ยอม ลุกขึ้นจากพื้น เตรียมเข้ามาต่อยร่างสูง มือแกร่งรับไว้ทัน พลิกกลับ หักแขนอีกคนมารวบไว้ด้านหลัง ก่อนจะเตะเข้าไปที่ขาทั้งสองข้างให้คุกเข่าลง

 

“กูเป็นใคร มึงไม่จำเป็นต้องรู้ แต่มึงทำร้ายคนของกู มึงไม่ได้ตายดีแน่” จงอินสั่งให้ลูกน้องมาจับตัวร่างหนาไว้ มือแกร่งบีบสันกรามของอีกฝ่ายอย่างแรงจนร่างหนาเบ้หน้า

 

“หึ มึงตลกรึเปล่า มึงบอกว่าอีโสเภณีนี่เป็นคนของมึงงั้นหรอ มึงบอกว่าคนขายตัวพรรคนี้เป็นสมบัติของมึงงั้นหรอ ถุ้ย..” เสียงทุ้มว่าถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างยียวน

 

ไวเท่าความคิดรองเท้าหนังราคาแพงประทับลงบนปากของอีกคนจนเลือดกลบ ร่างทั้งร่างกระเด็นลงไปกองกับพื้น

 

“สัด! มึงกล้าทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง รู้ไหมว่าป๊ากูเป็นใคร” เมื่อสู้ไม่ได้ก็ได้แต่ยกพ่อมาข่มเหมือนเด็กไม่รู้จักโต

 

“ป๊ามึงเป็นใครกูไม่รู้ แต่ฝากบอกมันด้วยว่าหนี้ที่ติดกูไว้หน่ะถ้าไม่คืน กูจะเอาตัวมึงมาเป็นที่ระบายอารมณ์ให้ลูกน้องกู” นามบัตรใบเล็กถูกเหวี่ยงใส่หน้า มือหนาสั่นเทาหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเบิกตากว้าง

 

คิมจงอิน..

 

ทายาทคนสุดท้องของตระกูลคิม ตระกูลใหญ่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลี บิดาของเขาเป็นนักการเมือง พี่ชายคนโตเป็นนักการเมืองสืบทอดเจตนารมณ์ของบิดา พี่ชายคนรองดูแลธุรกิจทั้งหมดของตระกูล ส่วนคิมจงอินน้องชายคนสุดท้องที่ไม่ค่อยมีคนพบเห็นหน้าตาจริงๆของเจ้าตัวสักเท่าไหร่ดูแลธุรกิจใต้ดินทั้งหมดของตระกูล

 

“เอาตัวมันออกไป จัดการให้เรียบร้อย” เสียงทุ้มเรียบนิ่งสั่งลูกน้องที่ก้มหัวรับคำสั่งพร้อมกับลากตัวร่างหนาที่อ้อนวอนร้องขอชีวิตอย่างน่าสมเพช

 

 

“คุณจงอิน ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย...”

 

 

เมื่อห้องทั้งห้องกลับสู่ความสงบอีกครั้ง ร่างสูงทรุดตัวลงบนเตียงที่ร่างบางนอนนิ่งอยู่ มือแกร่งยกขึ้นไล้ดวงหน้าหวานแผ่วเบา ดึงผ้าที่คลุมกายบางออก กวาดตามองไปทั่วร่างบอบบางที่เต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้าย ดวงตาคมฉายแววเจ็บปวด ปากหยักเม้มแน่น..

 

ลู่หาน ผมขอโทษ..

 

จงอินจัดการทำความสะอาดให้ร่างบาง สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะอุ้มขึ้นเดินออกไป

 

“คุณจงอิน..” เสียงของหญิงผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ครางเรียกชื่อร่างสูงแผ่วเบา เมื่อพบว่าชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมกับร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขน ดวงตาคมดุกร้าวที่มองมาทำให้เธอต้องรีบหลบสายตา

 

“ฉัน จะเอาตัวลู่หานไปวันนี้ ส่วนเรื่องเงิน ลูกน้องของฉันจัดการให้คุณเรียบร้อยแล้ว ลู่หานไม่ใช่คนของที่นี่อีกต่อไป” พูดจบก็สาวเท้าเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีก

 

นายหญิงผู้เคยเป็นแม่ของลู่หานถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดีแค่ไหนที่คิมจงอินไม่สั่งปิดหอคณิกาของเธอ

 

 

 

 

 

 

- - - - - ไ ม่ รู้ จั ก ฉั น   ไ ม่ รู้ จั ก เ ธ อ - - - - -

 

 

 



 

รถยนต์ยุโรปคันหรูจอดลงหน้าคฤหาสน์หลังงาม ร่างสูงอุ้มร่างบางลงมาจากรถก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วไม่ได้สนใจเหล่าลูกน้องและคนรับใช้ที่ยืนก้มหัวต้อนรับอย่างเป็นระเบียบ ดวงหนาคมเรียบสนิทไม่ต่างจากดวงตาสีนิลที่ปกติมักจะสงบนิ่ง หากแต่วันนี้มันมีรอยกรุ่นจนน่ากลัว พอเจ้านายเดินผ่านไปต่างก็มองหน้ากันอย่างงุนงง เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายพาใครมาที่นี่มาก่อน

 

หัวหน้าแม่บ้านทำท่าจะเดินตามเจ้านายร่างสูงขึ้นไปเผื่อเขาต้องการเรียกใช้อะไร แต่กลับถูกลูกน้องคนสนิทของชายหนุ่มปรามไว้เสียก่อน

 

“คุณป้าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับคุณจงอินตอนนี้เลยครับ” หญิงสูงวัยพยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับเข้าครัวไปทำหน้าที่ของนาง

 

 

จงอินพาลู่หานขึ้นไปยังห้องนอนของเขา วางร่างบางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะทรุดกายลงนั่งข้างๆ มือแกร่งกุมมือบางไว้

 

“ยะ..อย่า.. อย่าทำผม” เสียงหวานครางเพ้อออกมา เรียกให้ดวงตาคมหันไปมอง ตาสวยหลับแน่น ใบหน้าหวานส่ายไปมา

 

“ลู่หาน” เสียงทุ้มครางเรียกอย่างสงสาร มือแกร่งลูบใบหน้าเนียนอย่างปลอบประโลม

 

“มะ..ไม่ อย่าทำ ผมกลัวแล้ว” ลู่หานยังคงร้อง น้ำตาสีใสไหลมาตามแก้มเนียน จนจงอินต้องดึงร่างบางเข้ามากอด มือแกร่งลูบหลังบางแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม ลู่หานค่อยปรือตาขึ้น ตัวบางสั่นเทาถดหนี

 

“ลู่หาน นี่ผมเอง ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่กับคุณแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยนุ่ม กอดร่างบางให้แน่นขึ้น ลู่หานที่พอมีสติขึ้นมาบ้างเมื่อรู้ว่าคนที่กอดเขาอยู่เป็นใครก็กอดตอบร่างสูงแน่น

 

“จงอิน” เสียงหวานที่ครางเรียกชื่อเขาสั่นไหวไม่ต่างจากกายบางที่สั่นเทาอย่างน่าเวทนา น้ำสีใสเอ่อคลอดวงตาก่อนจะไหลอาบแก้มแล้วซึมหายไปกับเสื้อเชิ้ตของร่างสูง

 

“ไม่ ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรแล้ว” ร่างสูงว่าดันร่างบางออกจากอ้อมกอดพร้อมจูบซับน้ำตาให้อย่างนุ่มนวล ลู่หานที่เริ่มสงบลง เงยหน้าขึ้นสบตาคม ก่อนจะหลบตาเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ร่างบางดันตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่นทันที

 

จงอินงุนงงในการกระทำของร่างบาง ดึงข้อมือบางเข้ามาหา แต่มือเล็กก็พยายามผลักไส

 

“อย่าแตะต้องตัวผมเลย ผมไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมมันสกปรก” น้ำตาสีใสไหลอาบแก้ม ดวงตากลมสวยที่เคยเป็นประกายสดใสบัดนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด กายบางสั่นน้อยๆตามแรงสะอื้น จงอินใจกระตุกวูบ ดึงร่างบางเขามากอดแนบอก

 

“อย่าพูดแบบนั้นอีกได้ไหม ผมขอร้อง ต่อให้คุณจะเป็นยังไงผมก็ไม่เคยรังเกียจคุณ ผมรักคุณนะลู่หาน”

 

เสียงทุ้มแสนนุ่มนวล อ้อมกอดแสนอบอุ่น และมืออุ่นคู่นั้นที่ลูบศีรษะลู่หานอย่างปลอบประโลมยิ่งทำให้ร่างบางร้องไห้หนักขึ้นไปอีก

 

โชคดีแค่ไหน ที่ได้พบกับคนๆนี้..

 

 

ผมก็รักคุณ คิมจงอิน...

 

 

ร่างสูงก้มลงมอบจูบแสนหวานให้กับร่างบาง น้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว เหลือเพียงความนุ่มนวลหอมหวานที่โอบล้อมคนสองคน ริมฝีปากหนาไล้เล็มกลีบปากบางอย่างขออนุญาต ก่อนจะค่อยล่วงล้ำส่งลิ้นร้อนเข้าไป มือบางกำชายเสื้อร่างสูงแน่น ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดดูดดุนลิ้นเล็กแลกความหวานให้แก่กัน น้ำสีใสไหลย้อยมาตามคางเรียว ปากหยักตามไปจูบซับก่อนจะไล่จูบไปยังลำคอขาวขบเม้มแผ่วเบาเรียกเสียงครางแผ่วเบา

 

มือแกร่งไล้สัมผัสอย่างอ่อนโยนนอกร่มผ้า ก่อนจะค่อยหายเข้าไปในสาบเสื้อ ไล่ไปตามแนวสันหลังจนร่างบางเสียววูบ ผวากอดร่างสูงแน่น จงอินยิ้มน้อยๆกับท่าทางนั้น ปากหยักกดจูบที่ขมับบาง

 

ร่างสูงดันให้ร่างบางนอนลง มือหนาลูบไล้แผ่นอกบางภายใต้สาบเสื้อ ก่อนจะหยุดที่เม็ดสีทับทิมทั้งสองข้าง เขี่ยเบาๆจนแข็งเป็นไต มือแกร่งจับเสื้อเลิกขึ้น คิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อเห็นร่องรอยจากการโดนทำร้ายที่ยังคงเด่นชัด ปากหยักก้มลงจูบไปตามรอยเหลานั้นอย่างแผ่วเบาเรียวลิ้นไล้เลียขึ้นไปยังยอดสีทับทิมที่โผล่พ้นออกมา ตวัดเบาๆจนลู่หานบิดตัวด้วยความเสียวซ่าน จงอินดึงเสื้อของร่างบางออก ตามด้วยกางเกงตัวเล็กที่ขวางกั้นสิ่งสวยงามอยู่

 

เรียวลิ้นไล้ไปตามหน้าท้องแบนราบ ลงไปยังแก่นกายสีหวานไล่ตามความยาว ก่อนที่ริมฝีปากจะเข้าครอบครองส่วนอ่อนไหว ขยับช้าๆ จนลู่หานร้องครางออกมา ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มอย่างซ่านสุข ขยับอยู่สักพักก็ถอนปากออก ดูดเม้มตามซอกขาเรียว ไล่ไปยังช่องทางสีหวาน

 

“ยะ..อย่า” ลู่หานสะดุ้งสุดตัว ถดตัวหนีทันทีที่ลิ้นหนาแทรกเข้าไปในช่องทางรัก ภาพตอนถูกทำร้ายไหลเข้ามาอีกครั้ง น้ำตาสีใสเอ่อล้นขอบตา มือบางผลักไสร่างสูงออก ตัวบางสั่นเทาด้วยความกลัว จงอินหยุดการกระทำทันที ก่อนจะดึงร่างบางมากอดไว้แน่น

 

“ลู่หาน ผมขอโทษ” มือหนาลูบแผ่นหลังบางแผ่วเบา เขาไม่น่าใจร้อนกับลู่หาน ปล่อยอารมณ์ให้ครอบงำจนทำให้ร่างบางต้องหวาดกลัว

 

“จงอิน ผมขอโทษ ผม..” ดวงหน้าหวานสลดลงเมื่อเห็นดวงตาคู่คมของอีกฝ่ายฉายแววเจ็บปวด ลู่หานพยายามจะพูด แต่นิ้วเรียวก็ยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากบางให้หยุดเสียก่อน

 

“ไม่เป็นไรนะ ผมเข้าใจ ผมจะไม่ทำอะไรลู่หานอีก จนกว่าคุณจะพร้อม” ปากหยักกดจูบลงบนหน้าผากมนแผ่วเบา มือแกร่งจัดการสวมเสื้อผ้าให้ลู่หานเรียบร้อย ก่อนจะกอดร่างบางไว้ โยกตัวน้อยๆอย่างปลอบประโลม

 

ดวงตากลมปกคลุมไปด้วยม่านน้ำตาอีกครั้ง มองใบหน้าคมด้วยแววตาเศร้า..

 

 

ทั้งที่คุณให้อะไรผมตั้งมากมาย แต่สิ่งเดียวที่ผมสามารถให้คุณได้ ผมกลับทำไม่ได้

 

 

จงอิน ผมขอโทษ..

 

 

“อย่าร้องไห้นะครับ ผมสัญญา ต่อไปนี้ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณอีก” นิ้วเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าหวานแผ่วเบา ดวงตาคู่คมแสนมั่นคงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ปากหยักยกยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

“ลู่หาน แต่งงานกับผมนะ ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณตลอดไป” เสียงทุ้มแสนหนักแน่นและจริงจังทำเอาร่างบางน้ำตาคลอกับคำพูดที่คิดว่าชาตินี้คนอย่างลู่หานคงจะไม่มีสิทธิได้ยินมัน..

 

แค่สิ่งที่คุณทำเพื่อผมที่ผ่านมามันก็มากจนเกินพอแล้ว

 

ต่อให้ต้องอยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้ของคุณ หรือนางบำเรอของคุณ ผมก็ยินดี

 

แต่สิ่งที่ผมได้รับในตอนนี้ มันเกินความคาดหวังของผมไปมากจริงๆ

 

 

ถ้านี่คือความฝัน ลู่หานก็ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาอีกเลย รอยยิ้มงดงามประดับบนดวงหน้าหวาน ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา หากแต่คราวนี้มันคือน้ำตาแห่งความปิติ จงอินดึงร่างบางมากอดไว้แนบอก

 

“ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ ดวงหน้าหวานเงยขึ้นสบตากับร่างสูง ดวงตาคู่กลมเริ่มมีประกายแวววาวอย่างงดงาม ดวงตาคู่นี้ที่เขาหลงรักมันตั้งแต่แรกเห็น คิมจงอินหัวเราะเบาๆกับความคิดของร่างบาง ก้มลงจูบเปลือกตาทั้งสองข้างแผ่วเบา

 

“มัวแต่คิดมากระวังผมเปลี่ยนใจนะ” จงอินเย้าร่างบาง ดวงหน้าคมเผยยิ้มกว้างอย่างขำขัน เมื่อเห็นร่างบางเปลี่ยนสีหน้าไปมาอย่างรวดเร็ว

 

“อ๊า ไม่นะ ต่อให้เป็นแค่ฝันผมก็จะแต่ง แต่งงานกับจงอิน” ดวงหน้าหวานซบลงกับอกกว้างอย่างเขินอาย ลู่หานไม่ต้องการให้ร่างสูงเห็นหน้าของเขาในตอนนี้ที่ร้อนจนแทบระเบิด มันคงต้องแดงมากแน่ๆ หากแต่ร่างบางไม่รู้เลยว่าใบหูทั้งสองข้างของเขามันก็แดงไม่แพ้กัน

 

ดวงตาคู่คมที่มักจะเย็นชาทอดมองร่างบางอย่างอ่อนโยน ปากหยักเผยยิ้มอย่างมีความสุข

 

 

สัญญา.. ต่อจากนี้ไปคิมจงอินจะปกป้องดูแลลู่หาน จะอยู่เคียงข้างและร่วมทุกข์ร่วมสุขไปจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิตสิ้นสุดลง

 

 

          เวลาไม่ใช้คำตอบของความรัก

 

          แม้เราจะรู้จักกันได้เพียงไม่นาน

 

แต่คำคำเดียวที่ผมนิยามให้กับคุณได้ก็คือ

 

 

รัก

 

 

รักมาก

 

 

รักมากที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

N e v e r   E n d i n g   S t o r y

 

 

. . . L u h a n   &   J o n g i n   F o r e v e r . . .








116907658









ฟังเพลงนี้ไปด้วยจะฟินมากขึ้นนะคะ อิอิ

Till The End - David Tan








 

 

 



 

หนึ่งเดือนถัดมา

 

พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายในโบสถ์ขนาดกลาง คนที่มาร่วมงานล้วนเป็นมิตรสหายคนสนิทของร่างสูงเท่านั้น ลู่หานมองสำรวจตัวเองและคนข้างกาย เขาอยู่ในชุดสูทสีขาวในขณะที่ร่างสูงผิวสีแทนข้างกายสวมสูทสีดำ เส้นผมสีดำสนิทถูกเซ็ทเป็นทรงทำให้คนตรงหน้าดูหล่อคมและมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก บรรยากาศที่แสนงดงามและศักดิ์สิทธิ์ทำเอาลู่หานน้ำตาคลอ ในชีวิตไม่เคยคาดหวังว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน คนที่รักเขาจริงๆ คิมจงอินกระชับมือบางที่เขากุมไว้แน่นขึ้นเมื่อเห็นดวงตากลมของคนข้างกายเริ่มมีหยาดน้ำแวววาวรื่นขึ้นมา ปากหยักเผยยิ้มมองดวงหน้าหวานอย่างเอ็นดู

 

ทั้งสองเดินกุมมือกันไปตามทางเดินกลางโบสถ์ที่ทอดยาว ก่อนไปหยุดยืนอยู่หน้าแท่นพิธีที่มีบาทหลวงสูงวัยยืนทอดสายตามองทั้งคู่ด้วยความเมตตา

 

 

“คิมจงอินและลู่หานท่านทั้งสองมาที่นี้โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาโดยสมัครใจอย่างแท้จริงเพื่อเข้าสู่พิธีสมรสใช่หรือไม่”

 

“ครับ” สองเสียงประสานกันหนักแน่น

 

“เมื่อเข้าสู่พิธีสมรสเช่นนี้แล้วท่านทั้งสองพร้อมที่จะรักและยกย่องให้เกียรติแก่กันจนตลอดชีวิตหรือไม่”

 

“ครับ”

 

 

“โดยที่ท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกันขอให้ท่านจับมือ ของกันและกันและแสดงความสมัครใจต่อหน้าพระเจ้า และพระศาสนจักรของพระองค์”

 

          มือแกร่งกอบกุมมือบางไว้ ดวงตาสบประสานถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวล เสียงทุ้มถ่ายทอดคำสัตย์สาบานก้องกังวานไปทั่วโบสถ์

 

“ข้าพเจ้า คิมจงอิน ขอรับ ลู่หาน เป็นภรรยาและขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

 

สิ้นคำสัตย์สาบานของร่างสูง หยาดน้ำวาวใสก็กลิ้งหล่นจากดวงตาคู่กลม หยดลงบนหลังมือบาง จงอินมองดวงหน้าหวาน ไล้นิ้วโป้งบนหลังมือของอีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ พยักหน้าให้อีกฝ่ายพูดคำสาบานของตน

 

 

“ข้าพเจ้า ลู่หานขอรับคุณ คิมจงอินเป็นสามีและขอสัญญาว่า จะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

 

เสียงหวานสั่นไหว พยายามกลั้นก้อนสะอื้น ความปิติยินดีมันเต็มล้นอยู่ในอกจนแทบจะระเบิดออกมา

 

          ร่างสูงมองดวงหน้าหวาน เผยยิ้มอย่างเอ็นดู ไม่ต่างจากพ่อบาทหลวงที่ทอดมองทั้งคู่ด้วยความเมตตาพร้อมกับดำเนินพิธีการต่อ

 

“ขอพระเจ้าเสกแหวน สองวงนี้ ซึ่งท่านทั้งสองจะสวมให้แก่กันและกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์”

 

“อาเมน”

 

          จงอินหยิบแหวนทองคำขาวสีเงินเรียบขึ้นจากกล่องกำมะหยี่ สวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของร่างบาง ดวงตาคมสมมองดวงตากลมหวานที่เขาหลงรัก พร้อมเอ่ยคำสัตย์ด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล

 

“ลู่หาน ขอให้รับแหวนวงนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ของผม เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต”

 

 

 “จงอิน ขอให้คุณรับแหวนวงนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ของผมเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต” ลู่หานสวมแหวนให้ร่างสูงพร้อมเอ่ยคำสัตย์เช่นเดียวกันกับร่างสูง

 

“ท่านที่รักทั้งสอง พระเจ้าทรงสร้างท่านให้เป็นคู่อุปถัมภ์ของกันและกัน เป็นพระประสงค์ของพระองค์ ที่ทรงให้ท่านทั้งสองร่วมชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดชีวิต ท่านจงดูตัวอย่างสามีภรรยาที่ดีว่าเขาปฏิบัติต่อกันอย่างไร ขอให้ท่านปฏิบัติตาม ขอให้ท่านทั้งสองรักใคร่สัตย์ซื่อต่อกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน และมีความอดทน อดกลั้นต่อกันและกัน ขอให้ท่านทั้งสองจงรักกันให้มากยิ่งๆขึ้น ขอให้แหวนซึ่งท่านได้สวมให้แก่กันและกันนั้น เป็นสัญลักษณ์ และเครื่องหมายแห่งความรักอันไม่มีที่สิ้นสุด อย่ารักกันด้วยคำพูด หรืออารมณ์เท่านั้นแต่ต้องรักกันด้วยการกระทำ และความจริงใจ จงรักกันและกัน เหมือนอย่างที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงรักท่าน”

 

 

“ขอประกาศให้คิมจงอินและลู่หานเป็นสามีภรรยากันนับตั้งแต่บัดนี้”

 

 

จงอินประคองดวงหน้าหวานเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหยักประทับลงบนริมฝีปากบางแผ่วเบา จุมพิตที่เป็นตัวแทนคำสัตย์สาบานแห่งรัก

 

 

..ผมจะจับมือคุณเดินไปจนสุดปลายทางชีวิตของเรา..

 

 

 



 

 

พิธีการต่างๆ ถูกดำเนินไป งานเลี้ยงฉลองตอนเย็นจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลของตระกูลคิม ทุกคนต่างร่วมอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว จนกระทั่งถึงเวลาส่งตัวเข้าหอ

 

 

“เฮ้ย ไอ้กัมจง มีความสุขมากๆ มีหลานให้กูอุ้มไวๆนะเว่ย” คำอวยพรจากปาร์คชานยอลเพื่อนสนิทของร่างสูงทำเอาลู่หานถึงกับหน้าขึ้นสี ปากหยักยกยิ้มกับท่าทางเขินอายของภรรยา

 

“ไม่ต้องมาพูดเลยมึง ไปบอกเมียมึงนู้นไป” ร่างสูงว่าพร้อมกระตุกยิ้ม มองไปทางภรรยาตัวเล็กของเพื่อนที่ถลึงตากลมมองสามีตัวโย่งอย่างเอาเรื่อง มือเล็กดึงหูกางๆอย่างหมั่นไส้ จนคนตัวโย่งร้องออกมาเสียงดัง ดิ้นพลาดๆเหมือนโดนของ

 

“เวอร์ไปแล้ว ปาร์คชานยอล ฉันแค่ดึงหูไม่ได้ตัดไอ้นั่นของนายไปให้เป็ดกินซะหน่อย แล้วถ้ายังไม่เลิกพูดมากเตรียมตัวออกไปนอนนอกห้องเลยหนึ่งเดือน”

 

“อุ๊ ม่ายน้า คายองซูววอ่า ที่ร๊ากผมผิดไปแล้ววววว” เสียงทุ้มอ้อนภรรยาร่างเล็ก เบะปากราวกับเด็กถูกขัดใจ กอดเอวอีกคนนัวเนียอย่างออดอ้อน โดคยองซูกลอกตาอย่างเอือมระอา

 

นี่ผัวหรือลูก ตอบ!!!

 

“ผมขอตัวนะ มีความสุขมากๆทั้งคู่เลย แล้วก็ลู่หาน ถ้ามีปัญหาเรื่องสามีไม่เชื่อฟังหล่ะก็ ปรึกษาผมได้” โดคยองซูยิ้มให้ทั้งคู่จนปากเป็นรูปหัวใจ ลู่หานยิ้มรับไมตรีอย่างเต็มใจ ในขณะที่คิมจงอินเริ่มเหงื่อตก เมื่อเห็นปาร์คชานยอลเพื่อนรักโดนภรรยาร่างเล็กลากหูกางๆออกไป เสียงทุ้มร้องงุ้งงิ้งไปตลอดทาง

 

จงอินสะดุ้งเมื่อร่างบางยกมือขึ้นสัมผัสดวงหน้าเขาแผ่วเบา ลู่หานยิ้มขำให้กับท่าทางของสามี

 

“จงอินกลัวผมจะเป็นแบบคยองซูหรอฮะ” ลู่หานยิ้มจนตาหยี มองสามีที่มาดหลุดจนน่าขัน ดวงหน้าคมเหรอหรา

 

น่าแกล้งชะมัด

 

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะฮะ ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก” ลู่หานยิ้มน้อยๆ ดวงตาคู่กลมเป็นประกายระริก จงอินยิ้มตอบเหมือนใจชื้นมากขึ้น

 

“แต่ผมจะทำยิ่งกว่านั้นอีก” ลู่หานฉีกยิ้มเต็มใบหน้า พร้อมกับจงอินที่ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

 

“ก็เอาสิ ถ้าคิดว่าสู้ฉันได้”

 

“อือออ” ปากหยักประทับลงกับริมฝีปากบางดูดกลืนเสียงหวานเจื้อยแจ้ว ที่พยายามแกล้งขู่เขาอยู่ จูบที่หนักหน่วงและยาวนานทำเอาร่างบางแทบยืนไม่อยู่ ลู่หานกำสูทของอีกฝ่ายแน่นเพื่อช่วยในการทรงตัว จงอินไม่ยอมถอนปากออกส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนจนร่างบางครางประท้วง มือบางทุบอกแกร่งเบาๆเมื่อเริ่มหมดลมหายใจ

 

ร่างสูงยอมถอนริมฝีปากออก พร้อมตะหวัดอุ้มร่างบางไว้ในอ้อมแขน เดินตรงเข้าไปในส่วนของห้องนอน วางร่างบางลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเป็นรูปหัวใจ จนกลีบดอกไม้กระจายไปทั่ว ร่างสูงตามมาทาบทับ เริ่มต้นจุมพิตแสนร้อนแรงอีกครั้ง คราวนี้มันไม่หยุดอยู่แค่ริมฝีปาก ริมฝีปากหนาประทับรอยจูบไปทั่วทั้งดวงหน้าหวาน ใบหูเล็ก และลำคอขาว ซุกไซร้ดูดเม้มแผ่วเบา มือแกร่งเริ่มปลดกระดุมเสื้อสูทของร่างบาง พร้อมทั้งเสื้อเชิ้ตตัวบางด้านใน ก่อนที่ลิ้นร้อนจะไล้ตามลงมาที่แผ่นออกขาวเนียน ดูดเม้มฝากรอยรักประปรายไปทั่ว

 

ลู่หานเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่สามีมอบให้ ดวงตาคู่กลมหรี่ปรือ ขนตางอนยาวประพรมไปด้วยหยาดน้ำงดงาม แต่ก็ต้องปรือขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่หยุดลง

 

“ไปอาบน้ำเถอะนะครับ ถ้ายังอยู่แบบนี้ผมอาจอดใจไม่ไหวทำร้ายคุณนะลู่หาน” เสียงทุ้มพร่าด้วยแรงอารมณ์กระซิบชิดใบหูของเขา พร้อมกับร่างสูงของสามีที่ผล่ะออกไป

 

ลู่หานรู้ดีว่าจงอินหมายถึงอะไร ร่างสูงคงกลัวว่าเขาจะเป็นแบบวันนั้นอีก ลู่หานหยิบผ้าเช็ดตัวที่ร่างสูงเอามาวางไว้ให้พร้อมเดินเข้าห้องน้ำไป

 

ลู่หานปลดเครื่องแต่งกายออก ยืนมองภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในกระจกบานโต มือบางลูบไล้ไปตามร่างกายเปลือยเปล่า

 

 

ความสุข.. ไม่รู้มันจะอยู่กับเราไปได้อีกนานแค่ไหน

 

 

ตั้งแต่ที่ผ่านเรื่องราวตอนนั้นมา มันทำให้ลู่หานเข้าใจ ไม่มีอะไรในชีวิตที่แน่นอน อีกเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นเขาก็จะได้พบกับความสุข แต่มันกลับพังทลายลงกลายเป็นตราบาปที่ฝังใจ

 

แม้จะไม่อาจลืมได้ แต่ลู่หานก็จะไม่เก็บมันไปคิดให้ทรมานใจอีก ไม่ใช่เขาคนเดียวที่เจ็บ เขารู้..ทุกครั้งที่เขาร้องไห้เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นจงอินก็จะรู้สึกแย่ไปกับเขาด้วย

 

ตั้งแต่วันนั้นจงอินก็ไม่เคยล่วงเกินเขาอีก บางคืนที่ตื่นมากลางดึกได้ยินเสียงร่างสูงช่วยตัวเองในห้องน้ำ ลู่หานถึงกับน้ำตาคลอ ทำไมจงอินต้องอดทนเพื่อเขาขนาดนั้น..

 

ดวงหน้าหวานหม่นลง มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกลวกๆ สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินไปอาบน้ำ

 

 

ต่อไปนี้ ผมจะเริ่มต้นใหม่ จะลืมทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น

 

 

วันนี้ผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด..

 

 

รอผมนะ จงอิน

 

 

 

เวลาผ่านไปไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออก ร่างบางออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่คลุมกายเพียงท่อนล่าง หยดน้ำเกาะพราวบนผิวกายขาวเนียน เส้นผมที่เปียกลู่ลงมาแนบแก้ม น้ำจากเส้นผมหยดลงบนไหล่บางก่อนจะไหลไปตามแผ่นอกเล็ก จุดสีชมพูสองจุดที่เด่นหราอยู่บนแผ่นอกขาวเนียนหดรัดตัวเนื่องจากความเย็นของอากาศ ภาพที่เห็นทำเอาจงอินกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ

 

“ลู่หาน ผมว่าคุณไปแต่งตัวก่อนเถอะนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย” เสียงทุ้มพูดตะกุกตะกัก หายใจไม่ทั่วท้อง

 

“ฮะ คุณก็ไปอาบน้ำเถอะ จะได้มานอนกัน” ร่างบางยิ้มหวานส่งให้ นึกขำกับท่าทางของร่างสูง

 

จงอินรีบเดินเข้าห้องน้ำไป ก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วทำให้ร่างบางกลัวอีก



 

 

สิบห้านาทีผ่านไป ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อคลุมเนื้อดีที่สวมทับร่างกาย เห็นร่างบางนั่งรอเขาอยู่บนเตียงก็ส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ

 

“ง่วงรึยังครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ดึงร่างบางเข้ามากอด มือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่ม

 

“นิดหน่อยฮะ” ร่างบางกอดตอบ ซุกตัวเข้าหาไออุ่น

 

“งั้นนอนเถอะ วันนี้คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เสียงทุ้มว่า ปากหยักกดจูบลงบนหน้าผากนวล ก่อนจะดึงร่างบางให้นอนลงมาด้วยกัน ห่มผ้าให้ แล้วเอื้อมมือไปปิดโคมไฟที่หัวเตียง



 

###################################

คัท

..ฉากหอคอยงาช้าง..


ติดตามฉากคัทได้ที่ @Wanilla_Secret

###################################






















 

 “ลู่หานดูสิครับ แสงจันทร์สะท้อนพื้นน้ำสวยมากเลยนะ” เสียงทุ้มกระซิบชิดใบหู มือแกร่งข้างหนึ่งรั้งใบหน้าหวานให้เงยขึ้นมอง ดวงตาคู่กลมปรือเปิดขึ้นมองภาพที่แสนงดงามตรงหน้า แสงจันทร์ที่เหลืองนวลสะท้อนผืนน้ำที่เคลื่อนไหวเป็นประกายระยิบระยับสวยงามจนไม่อาจละสายตา

 

“จงอิน ขอบคุณนะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบา ทั้งที่ดวงตาคู่กลมยังคงจับจ้องอยู่กับเกลียวคลื่นที่ซัดสาดอย่างเป็นจังหวะ ไหล่บางห่อลงเล็กน้อยเมื่อเริ่มรู้สึกหนาว จงอินที่อยู่ด้านหลังขยับกายให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น แขนแกร่งโอบกอดมอบความอบอุ่นให้แก่ร่างบาง มือบางยกขึ้นวางซ้อนทับมือหนา เอนหลังพิงอกแกร่ง

 

 

ความรักความอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กัน แม้ไม่ต้องเอ่ยออกมาก็รับรู้ได้ด้วยใจ..

 

 

 

 

All these precious moments With you by my side
ทั้งหมดนี้คือความทรงจำที่มีค่า ให้กับเธอซึ่งอยู่เคียงข้างฉัน

 

Must be a gift from heaven That's holding me all night
ความทรงจำที่ถือเป็นของล้ำค่าจากสวรรค์ ซึ่งฉันได้แต่เก็บไว้ทุกคืน

 

I don't know how I found you I'm thankful that I have
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเรามาพบเจอกันได้ยังไง แต่ฉันก็รู้สึกซาบซึ้งใจนะที่มีเธออยู่เคียงข้าง

 

Now that I have a love so true To hold to keep to share
ฉันรู้แล้วล่ะว่านี่คือรักแท้ ที่มีไว้เพื่อครอบครอง ดูแลและแบ่งปัน

 

 

 

 

ดวงตาคู่กลมยังคงทอดมองออกไปยังผืนน้ำสีดำสนิทเบื้องหน้า แสงจันทร์สะท้อนน้ำเป็นเงากระเพื่อมไหวตามเกลียวคลื่น ลู่หานหายใจเข้าลึก ดวงตาคู่สวยหลับลงซึมซับความสุขตรงหน้า

 

 

 

 

In my heart I can no longer hold inside
ฉันไม่สามารถเก็บความลับไว้ในหัวใจได้นานกว่านี้แล้ว

 

All of the love I used to hide
ความรักทั้งหมดที่ฉันเก็บซ่อนไว้มาเนิ่นนาน

 

I'll always be with you until the very end
ฉันจะรักเธอจนกว่าวาระสุดท้าย

 

In this world there is no place I'd rather be
ในโลกนี้ ไม่มีที่ไหนที่ฉันอยากจะอยู่ด้วยมากกว่านี้แล้ว

 

You are my life my soul my girl
เธอคือชีวิต คือวิญญาณ คือคนของฉัน

 

And through it all I know that you've come to see
ฉันรู้นะว่าเธอก็รู้ เพราะฉันจะทำให้เธอได้เห็นว่า

 

That you're the one till the end
เธอคือคนเดียวของฉัน ตราบจนวาระสุดท้าย

 

 

 

 

 

ความสุข.. ไม่รู้ว่ามันจะอยู่กับเราไปได้อีกนานแค่ไหน

 

ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่สนใจ

 

ขอเพียงแค่ตอนนี้ เวลานี้

 

ผมจะใช้ทุกวินาทีของผมให้มีคุณค่าที่สุด

 

ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

 

เพื่อเขา.. คนที่ผมรัก

 

 

 

คิมจงอิน..

 

 

 

 

 

 

We'll always be till the end

 

พวกเราจะอยู่ด้วยกัน ตราบจนวาระสุดท้าย

 

 

..

 

 

..

 

 

..

 

 

FIN.

 

 

####################################
 

 

Special Thanks: Wedding Square

 

Song Title: Till The End – David Tan

 

Credit:
 Lyric By superteenasia
Trans By sasai_moko @Dek-d

 

 

บอกฉันทีว่าคิมจงอินมันไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากหนาย!!!

 

ไม่เหนื่อยบ้างไง๊

 

จบเถอะจ้า ก่อนเสี่ยวลู่จะบอบช้ำไปมากกว่านี้ ฮ่าๆ

 

ยาวไปเดี๋ยวจะเบื่อคิมจงอินจอมหื่นกันซะก่อนเนอะ

 

มีชานซูโผล่มาน้อยๆ เพราะพวกนางได้ค่าตัวแค่นั้นค่ะ นั่นเล่นกันเต็มที่แล้วนะบอกเลย

 

ฉากแต่งงานอาจจะยืดยาวไปหน่อย ทนๆอ่านกันไปนะคะ

 

คิดว่าตอนนี้น่าจะจบจริงๆแล้ว

 

ใครชอบจงอินเวอร์ชั่นนี้ขอให้ยกมือขึ้น เผื่อสักวันนางจะคัมแบค *.*

 

สุดท้ายช็อตฟิคเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..

 

ว่าอะไรดีคะ ช่วยกันคิดหน่อย อิอิ

 

 

 

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจนะคะ

 

หลายครั้งที่ถอดใจจะไม่ลงต่อ พอเห็นคอมเม้นท์แล้วก็ต้องลงค่ะ

 

ขอบคุณมากนะคะ

 

พวกคุณคือกำลังใจของฉัน

 

 

 

 

รักด้วยหัวใจ

 

 

:) Wanilla



 

 

 

 
 
Like this story? Give it an Upvote!
Thank you!

Comments

You must be logged in to comment
No comments yet